ลุ้นจบดีล 2 ยักษ์สื่อสาร! จับตาพรุ่งนี้ กสทช. เคาะดีลควบรวมกิจการ “ทรู-ดีแทค” หรือไม่

287
0
Share:
ลุ้นจบดีล 2 ยักษ์สื่อสาร! จับตาพรุ่งนี้ กสทช. เคาะดีลควบรวมกิจการ "ทรู-ดีแทค" หรือไม่

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เผยหลังจากประชุมร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 1 ที่ได้เรียกให้ กสทช. ส่งผู้แทนเข้าร่วมชี้แจงโดยมี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ ว่า

กรณีที่ กสทช. ได้ขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยตีความอำนาจในประเด็นการขอรวมกิจการของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ประเด็นที่ชี้แจงเป็นตามข้อคำถามของบอร์ด กสทช. ที่ได้มอบหมายมา และเป็นไปตามหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยตีความ

กสทช. จำเป็นต้องหารือต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาในประเด็นข้อกฎหมายที่มีความสำคัญและส่งผลโดยตรงต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อก่อให้เกิดการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม ส่งเสริมและสนับสนุนการแข่งขันและการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือในการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ

ประกอบกับการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ทรูฯ และดีแทคเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการโทรคมนาคมของประเทศ และการรวมธุรกิจดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ผู้บริโภค รวมไปถึงธุรกิจอื่นๆ อีกหลายภาคส่วน เพื่อให้การดำเนินการทุกขั้นตอนเกี่ยวกับการรวมธุรกิจให้เป็นไปโดยรอบคอบและถูกต้องตามกฎหมาย และสอดรับกับระยะเวลาเร่งรัดที่ กสทช. จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาอันสมควร ตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 และพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นในเรื่องข้อ 12 ตามที่ประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคมข้อ 9 กำหนดว่า “การรายงานตามข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ 7 หรือข้อ 8 ให้ถือเป็นการขออนุญาตจาก กสทช. ตามข้อ 8 ของประกาศ กทช. เรื่อง มาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความ ไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2549”

และโดยที่ข้อ 12 ของประกาศฉบับเดียวกันกำหนดให้เลขาธิการ กสทช. รายงานต่อ กสทช. ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับความเห็นประกอบการรายงานการรวมธุรกิจจากที่ปรึกษาอิสระ หากรายงานการรวมธุรกิจส่งผลให้ตลาดที่เกี่ยวข้องมีดัชนีเฮอร์ฟินดาห์ล-เฮิร์ชแมน (HHI) มากกว่า 2500 และเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจากเดิมมากกว่า 100 และมีอุปสรรคการเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งมีการครอบครองโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ให้ถือว่าการรวมธุรกิจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ กสทช. อาจพิจารณากำหนดเงื่อนไขหรือนำมาตรการเฉพาะสำหรับผู้มีอำนาจเหนือตลาดอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นจากที่มีการกำหนดไว้ในข้อ 9 ประกอบกับข้อ 12 ดังกล่าวข้างต้น จะถือว่าเป็นการมอบอำนาจการพิจารณาอนุญาตให้ถือครองธุรกิจของผู้รับใบอนุญาตรายอื่นที่เป็นอำนาจเฉพาะตัวของ กสทช. ตามมาตรา 27 (11) แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 และที่แก้ไขเพิ่มเดิม และมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ประกอบข้อ 8 ของประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ให้เลขาธิการ กสทช. หรือไม่และจะมีผลประการใด และจะเป็นการกระทบต่อหลักการป้องกันมีให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคมตามกฎหมายและประกาศเกี่ยวข้อง หรือไม่ อย่างไร

“ผมค่อนข้างเชื่อว่าการรายงานต่อกฤษฎีกาครั้งนี้น่าจะครบถ้วนและครอบคลุมตามคำถามของบอร์ด กสทช. ที่ต้องการอยากจะให้ท่านกฤษฎีกาทุกท่านช่วยชี้แนะในประเด็นกฎหมายแล้ว ดังนั้น เข้าไปชี้แจงครั้งเดียวก็น่าจะได้คำตอบว่าท่านจะคิดเห็นอย่างไร”

สำหรับในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ย.) การประชุมบอร์ด กสทช. จะมีวาระค้างให้บอร์ด กสทช. พิจารณาประเด็นการรวมธุรกิจดังกล่าว เพราะในส่วนที่ผมรับผิดชอบที่เป็นของสำนักงาน กสทช. ได้ทำการบ้านตามที่บอร์ด กสทช. สั่งครบแล้ว ตามที่ให้ไป

สำหรับคณะกรรมการกฤษฏีกาคณะที่ 1 ประกอบด้วย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการ นายอารีย์ วงศ์อารยะ กรรมการ นายอาษา เมฆสวรรค์ กรรมการ นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ กรรมการ นายปรีชา วัชราภัย กรรมการ นายประสพสุข บุญเดช กรรมการ นายดิสทัต โหตระกิตย์ กรรมการ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ กรรมการ หม่อมหลวงไกรฤกษ์ เกษมสันต์ กรรมการ