ลุ้นทองนิวไฮ! ลุ้นเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย ดันราคาทองไตรมาสแรกปี 67 ทะลุนิวไฮ

1349
0
Share:
ทองคำ

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าราคาทองคำในประเทศที่เคลื่อนไหวในทิศทางบวกในช่วงนี้เป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า อย่างไรก็ตาม มองว่าการอ่อนค่าของเงินบาทน่าจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ เนื่องจากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล เช่นการเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน จะเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นความต้องการเงินบาท อย่างไรก็ดีการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมีผลแต่กับ ราคาทอง ในประเทศเท่านั้น ส่วนราคาทองคำในตลาดโลกในระยะสั้นอาจต้องจับตาเพิ่มเติมในประเด็นการส่งสัญญาณยกเลิกนโยบายดอกเบี้ยติดลบของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งผลให้เยนผันผวนเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ

อย่างไรก็ตามในประเด็นหลัก ราคาทองคำต่างประเทศจะเคลื่อนไหวในทิศทางใดต้องจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นวันที่ 19–20 กันยายนนี้ ซึ่งตลาดคาดหวังให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยอีกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปรับตัวลดลงราวเดือนมีนาคม 2567 หากเป็นไปตามที่คาดจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่ในกรอบ 2,075-2,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งเป็นการทำจุดสูงสุดรอบใหม่

สำหรับแนวโน้มในระยะยาว มองว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในอีก 3-4 ปี ประเทศไทยจะมีการบริโภคทองคำเฉลี่ย 100 ตันต่อปี ใกล้กับระดับที่เคยสูงสุดที่ 153.8 ตันต่อปี ปัจจุบันประเทศไทยมีการบริโภคทองคำโดยเฉลี่ย 63 ตันต่อปี สูงเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากจีน และอินเดีย และเป็นอันดับ 7 ของโลก

อย่างไรก็ดี ส่วนหนึ่งที่การบริโภคทองคำจะเติบโตขึ้นได้อีกนั้น เป็นเพราะคนไทยหันมาซื้อขายทองคำผ่านระบบออนไลน์เพื่อลงทุนมากขึ้น เพราะเข้าถึงง่ายในราคาเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ตลาดทองคำในประเทศยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง วายแอลจีจึงได้ออกแบบการบริการให้เหมาะสม