ลุ้น ครม.เคาะเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เสนอรัฐหนุนค่าใช้จ่ายห้องพัก 40% รวม 5.6 แสนสิทธิ์
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ได้เสนอแผนของบประมาณเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ประกอบด้วย โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 จำนวน 2,016 ล้านบาท ส่วนแผนงานกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ปรับลดลงประมาณ 50 ล้านบาท จากวงเงิน 1,984 ล้านบาท สำหรับเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายห้องพัก 40% จำนวน 560,000 สิทธิ์ (ห้องต่อคืน) สูงสุด 3,000 บาท จำกัดให้สิทธิ์จองได้สูงสุดคนละ 5 สิทธิ์ (ห้องต่อคืน) ค่าใช้จ่ายอี-วอชเชอร์ 600 บาท โดยไม่สนับสนุนค่าใช้จ่ายตั๋วเครื่องบิน เหมือนเฟส 1-4 เริ่มดำเนินการวันที่ 14 ก.พ.66 ถึงเดือน พ.ค.66 แต่ต้องรอ ครม.พิจารณาอีกครั้ง
นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ จะพิจารณาการของบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วงเงิน 4,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 และแผนกระตุ้นท่องเที่ยวทั้งตลาดในและต่างประเทศ โดยขอใช้เงินจากงบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีจำเป็นเร่งด่วนปีงบประมาณ 66 โดยยืนยันไม่ได้ตัดงบประมาณแต่อย่างใด แต่เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเอกสารยังไม่ครบ จึงนำเรื่องเลื่อนออกไปก่อน
นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังเตรียมเสนอ ครม.พิจารณาขยายระยะเวลาพำนักของชาวต่างชาติออกไปถึงสิ้นปี 66 จากจะสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.66 โดยมาตรการนี้ชาวต่างชาติที่ขอวีซ่าหน้าด่าน หรือ Visa on Arrival จากเดิมอยู่ได้ไม่เกิน 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน ส่วนคนต่างด้าวจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา เดิมอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท.กล่าวว่า มั่นใจไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยเกินกว่าที่ประเมินไว้เดิมที่ 300,000 คน เนื่องจากจีนประกาศชื่อไทยเป็นลำดับที่ 1 จาก 20 ประเทศปลายทาง ที่ให้ทัวร์จีนท่องเที่ยวได้ แสดงว่ารัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับไทยมาก เป็นอันดับ 1 ในใจ แต่อาจเร็วไปที่จะฟันธงว่าทั้งปี 66 นักท่องเที่ยวจากจีนจะช่วยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเกิน 25 ล้านคน และถึง 30 ล้านคนหรือไม่ ขอให้ผ่านไตรมาสแรกก่อน ตั้งเป้าหมายว่า ปี 67 การท่องเที่ยวไทยจะกลับสู่ภาวะปกติเหมือนปี 62
อย่างไรก็ตามล่าสุดมีเที่ยวบินจากเซี่ยงไฮ้และกว่างโจวขอกลับมาบินจำนวนมาก โดยต้นเดือน ก.พ.นี้ สายการบินสปริงแอร์จะเริ่มวันละ 7 เที่ยวบิน ซึ่ง 5 เที่ยวบินเข้ากรุงเทพอีก 2 เที่ยวบินเข้าเชียงใหม่และภูเก็ต และมีหลายสายการบินที่ขอสลอต (ตาราง) การบิน ขณะที่แอร์ไชน่า อยู่ระหว่างขอกลับมาบินใหม่ ส่วนที่เกินจากสายการบินปกติจะรับได้ เตรียมจัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากปักกิ่ง และเฉิงตูเข้ามาไทยแล้ว
