ล็อกดาวน์บางส่วนในอิตาลี พบติดโควิดรายใหม่กว่า 12,000 มากสุดในเกือบ 7 เดือน
นายกรัฐมนตรีอิตาลี นายมาริโอ ดรากี เปิดเผยว่าอิตาลีจำเป็นต้องป้องกันและควบคุมภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังพบการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ แต่มีความต่อเนื่องตลอดเวลา โดยมีมติคณะรัฐมนตรีเป็นเอกฉันท์ให้บังคับใช้กฎหมายห้ามประชาชนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ใช้บริการสถานที่ตามสาธารณะ เช่น ห้ามนั่งรับประทานอาหารทั้งในร้านและกลางแจ้ง ห้ามเข้าโรงภาพยนตร์ ห้ามเข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬา ในขณะที่ประชาชนที่มีเอกสารแสดงผลรับรองการฉีดวัคซีนแล้ว และบุคคลที่หายจากโรคระบาดโควิด-19 มาเป็นเวลา 6 เดือน สามารถใช้บริการสถานที่ต่างๆได้ มาตรการดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2565
นอกจากนี้ รัฐบาลสั่งใช้มาตรการปิดล็อกดาวน์บางส่วนในพื้นที่ภาคเหนือซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสกีชั้นนำระดับประเทศ และระดับโลก หลังจากพบการระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเกือบ 2 ปีผ่านมาที่พบการระบาดของโควิด-19 ในประเทศอิตาลี อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกีฬาสกีทางภาคเหนือของอิตาลีต้องถูกปิดล็อกดาวน์ถึง 2 ปี เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ต้องสูญเสียรายได้ถึงปีละ 1,200 ล้านยูโร หรือกว่า 49,500 ล้านบาท รวมเสียหายในช่วงเกือบ 2 ปีผ่านมาถึง 2,400 ล้านยูโร หรือกว่า 99,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ทำให้แรงงานชาวอิตาเลียนทั้งจ้างแบบประจำ 5,000 คน และชั่วคราวรายฤดูกาล 10,000 คน ต้องตกงานด้วย
ขณะนี้ การระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 5 ในทวีปยุโรป ได้ส่งผลกระทบกับประเทศอิตาลี กระทรวงสาธารณสุข อิตาลี เปิดเผยว่า พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่รอบ 24 ชั่วโมงถึงเมื่อวานนี้ 24 พฤศจิกายน 2564 มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น 12,448 ราย ไม่เพียงทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นมา แต่ยังเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเกินกว่าวันละ 10,000 รายขึ้นไปในรอบเกือบ 7 เดือนอีกด้วย ส่งผลยอดติดเชื้อรวมสะสมเป็น 4,954,585 ราย อยู่อันดับที่ 13 ของโลก และเป็นอันดับที่ 7 ในยุโรป ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่พุ่งขึ้น 85 ราย ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 133,415 ราย สำหรับพื้นที่การระบาดครั้งใหม่พบทางภาคเหนือของอิตาลีเป็นส่วนใหญ่
เมื่อกลางสัปดาห์นี้ที่ผ่านมา สกีรีสอร์ตชื่อดังทั้ง 6 แห่งทางภาคเหนือกลับมาเปิดบริการให้ประชาชนขึ้นไปท่องเที่ยว และเล่นสกีในฤดูหนาว ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องปิดบริการมาอย่างยาวนานจากการระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม เริ่มมีความกังวลมากขึ้นหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในอิตาลีกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ประชาชนชาวอิตาเลียนในเมืองใหญ่หลายแห่ง เช่น กรุงโรม ฟลอเรนซ์ เป็นต้น ได้ออกมาชุมนุมรวมตัวกันเป็นจำนวนมากเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลอิตาลีอาจใช้มาตรการปิดล็อกดาวน์ครั้งใหม่คล้ายๆกับประเทศอื่นๆในยุโรปที่ต้องกลับมาควบคุมสถานการณ์การระบาดในรอบที่ 5
ด้านการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในอิตาลีนั้น พบว่า มีการฉีดครบโดสอยู่ที่ 84% ของจำนวนประชากรกว่า 12 ล้านคน ในขณะที่การอย่างน้อย 1 เข็มครอบคลุมเพียง 78% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ อิตาลีเป็น 1 ใน 63 ประเทศกลุ่มเสี่ยงที่ประเทศไทยประกาศอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีผลตรวจรับรอง สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
