ล่มสลาย! เอฟทีเอ็กซ์แพลตฟอร์มเงินคริปโทใหญ่อันดับ 2 ของโลกล้มละลาย ซีอีโอปลดตัวเอง

221
0
Share:
ล่มสลาย! เอฟทีเอ็กซ์ แพลตฟอร์มเงินคริปโทใหญ่อันดับ 2 ของโลก ล้มละลาย ซีอีโอปลดตัวเอง

นายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ มหาเศรษฐีในวงการลงทุนเงินคริปโตเคอร์เรนซี ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอแพลตฟอร์มเอฟทีเอ็กซ์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก แถลงการณ์บริษัทเอฟทีเอ็กซ์ล้มละลาย และขอยื่นศาลให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์สินตามมาตรการ 11 ในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ พร้อมแต่งตั้งนายจอห์น เจ เรย์ที่ 3 ขึ้นเป็นซีอีโอคนใหม่

เมื่อวานนี้ มูลค่าความร่ำรวยส่วนตัวของอดีตซีอีโอเอฟทีเอ็กซ์ นายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ ที่มีถึง 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.15 ล้านบาทสูญหายเป็นศูนย์ภายใน 24 ชั่วโมง สาเหตุจากนักลงทุนเทขายหุ้นของบริษัทเอฟทีเอ็กซ์หลังมีสัญญาณล้มละลาย เนื่องจากนายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ อดีตซีอีโอไม่สามารถหาเงินสดจากพันธมิตรทางธุรกิจ และสถาบันการเงินเข้ามาแก้วิกฤตสภาพคล่องเงินสดได้ ซึ่งมีความจำเป็นต้องได้เงินมีมูลค่ามากถึง 9,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 338,400 ล้านบาท

ด้านดัชนีเศรษฐีบลูมเบิร์ก หรือ Bloomberg Billionaires Index ประเมินมูลค่าบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ในสหรัฐอเมริกาลดลงจาก 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 288,000 ล้านบาทเมื่อต้นปีนี้ลงมาเหลือเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือทั้งบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีค่าเหลือแค่ 36 บาท

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สหรัฐอเมริกา หรือเอสอีซี เปิดเผยว่า ได้เข้าตรวจสอบและสอบสวนนายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ อดีตซีอีโอเอฟทีเอ็กซ์ทันที

เมื่อวานนี้ 11 พฤศจิกายน 2565 คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์บาฮามาส ประกาศคำสั่งอายัดทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ ดิจิตอล มาร์เก็ตส์ ของแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ มหาเศรษฐีในวงการลงทุนเงินคริปโตเคอร์เรนซี และผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มเอฟทีเอ็กซ์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก

ฝ่ายบริหารระดับสูงของเอฟทีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโตเคอร์เรนซีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก เปิดเผยว่า ความจำเป็นอย่างมากที่ต้องเงินช่วยเหลือแก้วิกฤตสภาพคล่องขาดเงินสดจะมีมูลค่าสูงถึง 9,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 357,200 ล้านบาท

ตัวเลขดังกล่าวซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุด จะสูงกว่าที่นายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ มหาเศรษฐีในวงการลงทุนเงินคริปโตเคอร์เรนซี และผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มเอฟทีเอ็กซ์ เทรดดิ้ง ได้กล่าวเมื่อวานนี้กับนักลงทุนที่ซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีผ่านเว็ปไซต์เอฟทีเอ็กซ์ดอทคอม ว่า ถ้าหากไม่ได้รับเงินช่วยเหลือแก้วิกฤตสภาพคล่องมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 304,000 ล้านบาท แพลตฟอร์มเอฟทีเอ็กซ์จะล้มละลายในที่สุด นอกจากนี้ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาระดับสภาพคล่องเงินสดขั้นต่ำ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 152,000 ล้านบาท

ขณะนี้ฝ่ายบริหารของเอฟทีเอ็กซ์พยายามใช้ทุกช่องทางในการหาเงินสดมาแก้ไขวิกฤตสภาพคล่องไม่ว่าจะเป็นการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน การระดมทุนจากหุ้น หรืออาจเป็นทั้ง 2 รูปแบบผสมผสานกัน

สถานการณ์ของเอฟทีเอ็กซ์มาถึงทางตันในวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากไบแนนซ์แพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลกของซีอีโอนายจางเผิง จ้าว กลับลำไม่เข้าช่วยเหลือเอฟทีเอ็กซ์ ซึ่งแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่สูสีกับไบแนนซ์แบะประสบวิกฤตขาดสภาพเงินสดครั้งใหญ่ ด้วยการยกเลิกแผนข้อตกลงซื้อหน่วยธุรกิจเอฟทีเอ็กซ์ที่อยู่นอกตลาดสหรัฐอเมริกา โดยให้เหตุผลว่า ต้องรอขั้นตอนการประเมินสินทรัพย์ หรือ Due Diligence ทั้งหมดก่อน ที่สำคัญ ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกาเข้าตรวจสอบความผิดพลาดของการบริหารงานเอฟทีเอ็กซ์

วิกฤตสภาพคล่องอย่างรุนแรงครั้งประวัติศาสตร์ของเอฟทีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีของนายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ มหาเศรษฐีในวงการลงทุนเงินคริปโตเคอร์เรนซี และผู้ก่อตั้ง ซึ่งมีขนาดใหญ่สูสีกับคู่แข่งสำคัญที่สุดอย่างไบแนนซ์ของนายจางเผิง จ้าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ได้ปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยพบว่ามีการถอนเงินลงทุนออกจากเอฟทีเอ็กซ์รวมสูงถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 228,000 ล้านบาทภายใน 72 ชั่วโมง หรือ 3 วันติดต่อกันผ่านมา

การถอนเงินลงทุนจำนวนมากมายมหาสารอย่างรวดเร็วภายใน 3 วันติดต่อกัน เกิดขึ้นจากนายจางเผิง จ้าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอไบแนนซ์ ทวีตข้อความว่าไบแนนซ์อาจจะขายทิ้งพอร์ตลงทุนถือครองเงินเหรียญเอฟทีเอ็กซ์ทั้งหมด เนื่องจากการประเมินราคาเหรียญดังกล่าวเมื่อเร็วๆนี้ ไม่ได้มีการระบุข้อมูลที่ชัดเจนและละเอียดพอ

นักลงทุนในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกตัดสินใจเทขายเงินทุกสกุลคริปโทเคอร์เรนซีระดับโลก และเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีระดับท้องถิ่นของเจ้าของแพลตฟอร์มชื่อดังในแต่ละประเทศ เนื่องจากไม่มีความมั่นใจในสถานการณ์วิกฤตสภาพคล่องเงินสดของเอฟทีเอ็กซ์ที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่มีขนาดใหญ่ของโลกที่สูสีกับไบแนนซ์