ล้มนิวไฮ! ธุรกิจเอกชนอเมริกันล้มละลายพุ่งสูงเกือบ 600 บริษัท ตั้งแต่เกิดวิกฤตโรคโควิด

91
0
Share:
ล้มนิวไฮ! ธุรกิจ เอกชน อเมริกัน ล้มละลาย พุ่งสูงเกือบ 600 บริษัท ตั้งแต่เกิดวิกฤตโรคโควิด

เอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ท อินเทลลิเจนซ์ เปิดเผยว่า ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านไป มีบริษัทสัญชาติสหรัฐยื่นขอล้มละลายรวมจำนวน 34 บริษัท ส่งผลให้นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2023 มีบริษัทล้มละลายรวมทั้งสิ้น 591 บริษัท ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2020 หรือในรอบ 3 ปีผ่านมา อย่างไรก็ตาม จำนวนบริษัทที่ยื่นล้มละลายในเดือนพฤศจิกายนผ่านมา เป็นเดือนที่มีจำนวนบริษัทล้มละลายน้อยที่สุดในปีนี้ ลดลงจากเดือนตุลาคมที่มีบริษัทล้มละลาย 49 แห่ง

สาเหตุจากภาวะอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในระดับสูงในรอบกว่า 2 ทศวรรษ ภาวะเงินเฟ้อระดับสูงที่ทรงตัวและลดลงไม่รวดเร็วอย่างที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ท่ามกลางกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวอเมริกันที่ชะลอตัวพร้อมด้วยภาวะหนี้สินที่สูงขึ้น

สำหรับบริษัทล่าสุดที่ประกาศล้มละลายในเดือนพฤศจิกายนผ่านมาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2023 วีเวิร์ค (WeWork) ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ที่มาจากสตาร์ทอัพชื่อดังในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าได้ยื่นต่อศาลในเมืองนิวเจอร์ซี รัฐนิวยอร์ก เพื่อเข้าสู่สถานะล้มละลายแล้ว และร้องขออำนาจศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์สินตามกฎหมายมาตรา 11 ภายในต้นสัปดาห์หน้า ส่งผลให้บริษัทวีเวิร์คที่เคยมีมูลค่ามากมายถึง 47,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.74 ล้านล้านบาทเมื่อปี 2019 หรือก่อนเกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 ต้องกลายเป็นศูนย์หรือล่มสลายในที่สุด

ด้านภาระหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น นักลงทุน และเจ้าหนี้ทุกระดับชั้น มีมูลค่าระหว่าง 10,000-50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือระหว่าง 370,000 ล้านบาท ถึง 1.85 ล้านล้านบาท

ก่อนหน้านี้ มหาเศรษฐีและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซอฟท์ แบงก์ จากญี่ปุ่น เคยลงทุนในบริษัทวีเวิร์ค อย่างไรก็ตาม วีเวิร์คประสบความล้มเหลวในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วง 5 ปีผ่านมา

สาเหตุจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทพื้นที่ร่วมทำงาน หรือ Co-working space และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเผชิญภาวะซบเซาท่ามกลางสถานการณ์ต้นทุนการเงินที่อยู่สูง นอกจากนี้ในช่วงเกิดโรคระบาดโควิด-19 กลายเป็นปัจจัยลบอย่างรุนแรงกับวีเวิร์ค เนื่องจากลูกค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำต่างๆล้วนยกเลิกสัญญาการเช่าพื้นที่สำนักงาน เพื่อตัดลดค่าใช้จ่าย ที่สำคัญ ซอฟท์ แบงก์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำด้านโทรคมนาคม และกลุ่มบริษัทร่วมทุนชื่อดังระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่นของมหาเศรษฐีมาซาโยชิ ซอน ที่สนับสนุนการลงทุนวีเวิร์คในปัจจุบัน เผชิญกับภาวะหนี้สะสมสูง และมีผลประกอบการขาดทุนมากมาย

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปีนี้ บริษัทในสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายที่มีมูลค่าหนี้สินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 35,000 ล้านบาท มีจำนวนไม่น้อยกว่า 19 บริษัท รวมมูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 680,000 ล้านบาทขึ้นไป เช่น กลุ่มธนาคารเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ล้มละลายเมื่อวันที่ 17 มีนาคม บริษัทเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ ล้มละลายเมื่อวันที่ 23 เมษายน เป็นต้น