วัคซีนโควิดแบบพ่นจมูก”แนสแว็ก” ฝีมือคนไทย ผ่านการทดสอบสัตว์แล้ว แต่ไม่มีทุนวิจัยมาพัฒนาเฟสต่อไป

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ไบโอเทค สวทช. เปิดเผยวัคซีนโควิด-19 ชนิดพ่นจมูก ชื่อ”แนสแว็ก” ได้ผ่านการทดสอบทางคลินิกในสัตว์ทดลองแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมได้ถึง 100% แถมกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เร็วกว่าวิธีการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ป้องกันการติดและแพร่กระจายของเชื้อได้ทั้งระบบทางเดินหายใจ อยู่ได้นาน 3-6 เดือน

ซึ่งยื่นเอกสารขออนุมัติการทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 1 ต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แต่ได้มีอุปสรรคเนื่องจากทุนที่ใช้สำหรับงานวิจัย เพราะทุนที่ได้รับการสนับสนุนมาจากรัฐบาลเป็นเงินอุดหนุนที่มาจากงบประมาณเงินกู้ปี 2564 จำนวน 150 ล้านบาท ซึ่งมีข้อกำหนดว่าหากนักวิจัยใช้ไม่หมดในปีงบ ทุนที่เหลืออยู่ก็จะต้องส่งคืนกลับไปเพื่อของบประมาณใหม่ในปี 2565 ทำให้งานวิจัยเกิดการชะงักและล่าช้า จึงจำเป็นต้องประกาศขอรับเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนและประชาชน เพื่อไม่ให้โครงการล่าช้าออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี

โดยต้องรองบประมาณปี 65 ทำให้เกิดการชะงักของงานวิจัยเพราะว่างบประมาณมาค่อนข้างช้า และกระบวนการใช้เงินค่อนข้างลำบาก เนื่องจากว่ากระบวนการทางราชการใช้เวลาในการที่จะเบิกจ่ายหรือระเบียบของทางพัสดุ เพราะฉะนั้นที่ทำอยู่ตอนนี้มันยังมีงบประมาณบางส่วนเหลืออยู่ที่เราจะไปต่อได้ แต่จำเป็นต้องหยุดลงเพราะว่างบประมาณส่วนนี้มันเกินเวลาที่เราจะต้องใช้ได้และต้องส่งกลับคืนให้กับทางรัฐบาลไป

ทั้งนี้ หากการพัฒนาวัคซีนแบบพ่นจมูกแนสแว็ก ได้ดำเนินต่อตามกรอบระยะเวลาที่วางไว้ ทำให้ในช่วงกลางปี 2565 จะเสร็จสิ้นการทดสอบทางคลินิกในเฟส 2 จากนั้นก็สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเพิ่มการทดสอบในเฟส 3 หรือ จะผลิตวัคซีนมาให้คนไทยได้ใช้ทันทีในราคาต้นทุนโดสละ 30 บาทเท่านั้น เนื่องจากหลายประเทศเริ่มใช้วัคซีนชนิดนี้ นอกจากนี้ทีมวิจัยก็ได้วัคซีนสูตรสำหรับสายพันธุ์เดลต้าเพิ่มอีก 1 สูตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพและประสิทธิผลในสัตว์ทดลอง ซึ่งคาดว่าจะทราบผลในช่วงเดือนหน้านี้