วิกฤตคริปโทโลก! ไบแนนซ์แพลตฟอร์มเงินคริปโทโดดอุ้มเอฟทีเอ็กซ์เผชิญขาดเงินสดครั้งใหญ่
ไบแนนซ์ (Binance) แพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นของมหาเศรษฐีจีนชื่อนายจางเผิง จ้าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอไบแนนซ์ เปิดเผยว่า ได้ลงนามในข้อตกลงที่ไม่ผูกมัดภาระและความรับผิดชอบ หรือ Non-Binding ในการเข้าซื้อหน่วยธุรกิจของแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีมีชื่อว่าเอฟทีเอ็กซ์ที่อยู่นอกตลาดสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยเหลือแก้วิกฤสภาพคล่องเงินสดที่เอฟทีเอ็กซ์กำลังเผชิญอย่างรุนแรง ซึ่งเอฟทีเอ็กซ์เป็นคู่แข่งในทางธุรกิจประเภทเดียวกันกับไบแนนซ์
วิกฤตสภาพคล่องอย่างรุนแรงครั้งประวัติศาสตร์ของเอฟทีเอ็กซ์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีของนายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ มหาเศรษฐีในวงการลงทุนเงินคริปโตเคอร์เรนซี และผู้ก่อตั้ง ซึ่งมีขนาดใหญ่สูสีกับคู่แข่งสำคัญที่สุดอย่างไบแนนซ์ของนายจางเผิง จ้าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ได้ปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยพบว่ามีการถอนเงินลงทุนออกจากเอฟทีเอ็กซ์รวมสูงถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 228,000 ล้านบาทภายใน 72 ชั่วโมง หรือ 3 วันติดต่อกันผ่านมา
การถอนเงินลงทุนจำนวนมากมายมหาสารอย่างรวดเร็วภายใน 3 วันติดต่อกัน เกิดขึ้นจากนายจางเผิง จ้าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอไบแนนซ์ ทวีตข้อความว่าไบแนนซ์อาจจะขายทิ้งพอร์ตลงทุนถือครองเงินเหรียญเอฟทีเอ็กซ์ทั้งหมด เนื่องจากการประเมินราคาเหรียญดังกล่าวเมื่อเร็วๆนี้ ไม่ได้มีการระบุข้อมูลที่ชัดเจนและละเอียดพอ
นักลงทุนในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกตัดสินใจเทขายเงินทุกสกุลคริปโทเคอร์เรนซีระดับโลก และเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีระดับท้องถิ่นของเจ้าของแพลตฟอร์มชื่อดังในแต่ละประเทศ เนื่องจากไม่มีความมั่นใจในสถานการณ์วิกฤตสภาพคล่องเงินสดของเอฟทีเอ็กซ์ที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่มีขนาดใหญ่ของโลกที่สูสีกับไบแนนซ์
นายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ มหาเศรษฐีวัย 30 ปีในวงการลงทุนเงินคริปโตเคอร์เรนซี และผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโตเคอร์เรนซีที่มีชื่อว่า เอฟทีเอ็กซ์ เทรดดิ้ง พบว่าอันดับความร่ำรวยร่วงหลุดจาก 20 อันดับมหาเศรษฐีโลกเพียงชั่วข้ามคืนที่ผ่านมา โดยดัชนีมหาเศรษฐีบลูมเบิร์ก หรือ Bloomberg Billionaires Index เปิดเผยว่า ความร่ำรวยของซีอีโอเอฟทีเอ็กซ์เสียหายถึง 14,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 554,800 ล้านบาท หรือ -94% ของมูลค่าความร่ำรวยทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมงผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าความร่ำรวยลงมาเหลือเพียง 991.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 37,677 ล้านบาท
