วิกฤต!! ตกงานขึ้นอันดับ 1 ปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจทั่วโลก

สภาเศรษฐกิจโลก หรือเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม (WEF) เปิดเผยผลสำรวจ “ความเสี่ยงระดับภูมิภาคในการทำธุรกิจ” พบว่า ปัจจัยเสี่ยงในการดำเนินกิจการหรือธุรกิจในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้านั้น วิกฤตการว่างงานกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงมากที่สุดอันดับ 1 ของนักบริหารและภาคธุรกิจทั่วโลก
.
กรรมการผู้จัดการ เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม (WEF) นาย แซดเดีย ซาฮิดิ เปิดเผยว่าการจ้างงานที่เกิดภาวะสะดุดหยุดลงอย่างทันทีจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ทั่วโลก การนำระบบหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอมาใช้ทดแทนแรงงาน และการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานในการในการสร้างผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับตลาดแรงงานทั่วโลก
.
รายงานผลสำรวจ “ความเสี่ยงระดับภูมิภาคในการทำธุรกิจ” ประกอบด้วยความเสี่ยง 30 ประเภท ยังพบว่า ภาวะโรคระบาดเป็นความเสี่ยงอันดับที่ 2 ในปีนี้ ซึ่งกลายเป็นความเสี่ยงที่ทะยานขึ้นจากอันดับที่ 28 ในปี 2562 หรือขึ้นมาถึง 27 อันดับในผลสำรวจประจำปีนี้
.
ขณะที่ความเสี่ยงอันดับ 3, 4 และ 5 ได้แก่ วิกฤตการคลัง การโจมตีระบบข้อมูลหรือไซเบอร์ และความไม่มีเสถียรภาพในสังคม ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงด้านการโจมตีทางทหารกลับลดต่ำลงในมุมมองของนักบริหารธุรกิจทั่วโลก
.
ทั้งนี้ สภาเศรษฐกิจโลก หรือ WEF จัดทำรายงาน “ความเสี่ยงระดับภูมิภาคในการทำธุรกิจ” ผ่านการสำรวจจากบรรดาผู้นำทางธุรกิจจำนวน 12,012 คนจาก 127 ประเทศทั่วโลก ซึ่งผลสำรวจในรายงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการนำไปจัดรายงานขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆทั่วโลก ประจำปี 2020 ที่มีกำหนดจะเปิดเผยรายงานฉบับสมบูรณ์แบบในเดือนหน้านี้