‘วิษณุ เครืองาม’ชี้รัฐบาลนี้ก่อหนี้มากสุดเพราะอยู่นาน

760
0
Share:

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านอภิปรายว่า ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ไม่ตอบโจทย์การบริหารประเทศ ว่า ตนไม่วิจารณ์ แต่เป็นธรรมดา เนื่องจากเป็นบทบาทที่สำคัญของ ส.ส.ในการที่จะอภิปราย เป็นเรื่องของกฎหมาย เกี่ยวกับเรื่องเงินทองที่เป็นรายจ่ายของแผ่นดิน เมื่อพูดกันในหลักการแล้วเดี๋ยวก็จบ แล้วไปพูดคุยกันในกรรมาธิการวิสามัญ
.
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ไม่มีการตั้งงบประมาณในส่วนของแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 นั้น ผู้รู้ก็ต้องชี้แจงใน กมธ. จะเห็นภาพได้มากกว่า เพราะร่าง พ.ร.บ.งบนั้นมีการเตรียมทำตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด-19 พอมีโควิด-19 ก็มาปรับให้มันสอดคล้อง มันถึงได้ช้าไปเป็นเดือนก่อนจะเข้าสภา และยืนยันว่ามีแผนรองรับ
.
ขณะที่ข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลชุดนี้ก่อหนี้มากที่สุด เพราะว่ารัฐบาลอยู่นาน เวลาพูดถึงรัฐบาลนี้ต้องไปนับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 เขาอยู่นานกว่าคนอื่น ทำงานมากกว่าคนอื่น และต้องใช้เงิน รวมถึงต้องมาเจอวิกฤตโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลอื่นไม่เจอ เมื่อต้องใช้เงิน ดังนั้น จะเอาเงินมาจากไหน สมัยก่อนมาจากภาษีอากร วันนี้ประชาชนไม่มีรายได้ ปิดบ้าน ปิดเมือง ปิดประเทศ ล็อกดาวน์ รายได้ก็ไม่มี รัฐบาลจำเป็นต้องทำ 2 อย่าง คือ 1. แก้ปัญหาโควิด-19 และ 2.แก้ปัญหาผลกระทบจากโควิด-19 ตรงนี้ก็มีการชดเชยเยียวยากันอยู่ แล้วจะไปเอาเงินจากไหน ก็ต้องเอามาจากการกู้ ดังนั้น จะกู้มากกู้น้อยก็ไม่แปลก ขอให้มีปัญญาใช้หนี้เขา อย่าเบี้ยวก็แล้วกัน
.
ขณะที่ฝ่ายค้านขู่ว่าจะคว่ำร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯฉบับนี้ ตามกฎหมายเขามีอำนาจอยู่ 3 อย่างคือ คือ 1.เห็นชอบ 2.ไม่เห็นชอบ และ3.งดออกเสียง ก็ทำกันมาตลอดทุกสมัย หากเสียงส่วนใหญ่โหวตคว่ำ มันก็คว่ำ รัฐบาลก็ลาออก หรือยุบสภา ผลมันเป็นแบบนั้น เพราะเท่ากับสภาไม่ไว้ใจ แต่ต้องดูวันที่ 3 ก.ค.ที่จะมีการลงมติ และยังไม่มีกระแสการยุบสภาในชณะนี้