ศบค.ย้ำ! โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 สามารถตรวจเจอด้วย ATK และ RT- PCR ได้

546
0
Share:
โอไมครอน

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่าประชาชนมีความตื่นตระหนกกับโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ขอเน้นย้ำว่ายังไม่มีรายงานชัดเจนที่น่าเป็นห่วง ถึงแม้จะพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวในไทยเกิน 14 ราย แต่ในเบื้องต้นยังไม่พบความแตกต่างทางพันธุ์กรรมมากมายจากโอไมครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม กรมวิทยฯยืนยันว่า ยังสามารถตรวจสายพันธุ์ดังกล่าวได้จาก ATK และ RT-PCR ซึ่งเป็นมาตรฐานสาธารณสุขของไทยได้ตามปกติ

โดยเราจะเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและนำมารายงานให้ทราบโดยตลอด สำหรับพบผู้ติดเชื้อรายใหม่วันเดียวกันนี้ 8,450 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 8,191 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 8,153 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 38 ราย มาจากเรือนจำ 48 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 211 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 7,484 ราย อยู่ระหว่างรักษา 83,698 ราย อาการหนัก 528 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 102 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 28 ราย

โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาย 17 ราย หญิง 11 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 23 ราย มีโรคเรื้อรัง 4 ราย ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,415,472 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,309,648 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 22,126 ราย ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 366,694,287 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 5,656,642 ราย

ขณะที่คลัสเตอร์โรงเรียนมีการพบในหลายจังหวัด ประกอบด้วย ราชบุรี, น่าน, เพชรบุรี, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ร้อยเอ็ด, สมุทรปราการ, หนองคาย, ยโสธร, เลย, ศรีสะเกษ และจากการตรวจสอบทุกโรงเรียนเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคล และบุคคลากรในโรงเรียนก็ได้รับการฉีดวัคซีน แต่สาเหตุที่มีการแพร่ระบาดมาจากกิจกรรม เช่น การแข่งกีฬา การปัจฉิมนิเทศที่ทานอาหารร่วมกัน จะเห็นได้ว่าการติดเชื้อมาจากกิจกรรมรวมกลุ่ม รัฐบาลอยากให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติที่สุด จึงต้องเน้นย้ำมาตรการป้องกันโควิดในสถานศึกษาตามที่กำหนดไป และอาจให้นำมาตรการสมอลบับเบิลเหมือนที่โรงงานต่างๆแยกการรวมกลุ่มของพนักงานเป็นแผนกๆมาปรับใช้