ศบค.เตรียมเสนอกฎ 6 ข้อคุมเข้มนักธุรกิจต่างชาติเข้าไทย

693
0
Share:

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาศบค. ได้อนุมัติให้นักธุรกิจและผู้มีใบอนุญาตทำงานเดินทางเข้าประเทศมาแล้วประมาณ 11,000คน และคนกลุ่มนี้ได้ยอมรับการเข้ากักตัวในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ASQ) 14 วัน
.
ขณะนี้ ศบค. ได้อนุมัติให้มีนักท่องเที่ยวแบบ Long Stay โดยใช้ Special Tourist Visa (STV) ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2563 ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจะต้องเข้ารับ การกักตัวในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ASQ) 14วัน ด้วยเช่นกัน
.
โดยในระยะต่อไป รัฐบาลเห็นความจำเป็นที่ควรอนุญาตให้กลุ่มนักธุรกิจที่จะเข้ามาเจรจาธุรกิจ และพิจารณาตัดสินใจด้านการลงทุน เดินทางเข้ามาในประเทศ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
.
แต่ทั้งนี้ เนื่องจากนักธุรกิจกลุ่มดังกล่าวเดินทางเข้ามาเป็นระยะสั้น จึงควรต้องมีมาตรการพิเศษในการกำกับดูแล ซึ่งในเบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เตรียมนำเสนอมาตรการในการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นประธาน เพื่อนำข้อสรุปเสนอท่านนายกรัฐมนตรีต่อไป
.
โดยคาดว่ามาตรการที่เตรียมเสนอมีดังนี้
.
1) มีผลตรวจโควิด-19 (RT-PCR) ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย
.
2) มีกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมการรักษาโรคโควิด-19 ในวงเงินไม่น้อยกว่า 1 แสนเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
.
3) ตรวจหาเชื้อ RT-PCR เมื่อเดินทางมาถึงและเมื่อเดินทางออกจากประเทศไทย ที่ช่องทางเข้า-ออกประเทศไทย
.
4) ให้มีผู้ติดตามด้านการแพทย์และสาธารณสุขตลอดระยะเวลาที่พำนักในประเทศไทย หรือเงื่อนไขอื่นๆที่เหมาะสม
.
5) ให้เดินทางโดยยานพาหนะที่เตรียมไว้ ตามแผนการเดินทางที่กำหนดเท่านั้น
.
6)ให้มี ติดตั้ง Application ติดตามตัวเพื่อสามารถตรวจสอบได้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทย
.
ทั้งนี้ รายละเอียดของมาตรการอาจมีเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงได้ โดยคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) จะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ และในขั้นตอนต่อจากนี้ จะมีการพิจารณาเพิ่มเติมเพื่ออนุมัติให้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นลำดับต่อไป