ศบค. เร่งตามหานักท่องเที่ยว 133 ราย จากประเทศกลุ่มเสี่ยงแอฟริกา ให้โควิดอีกครั้ง

372
0
Share:

พญ. สุมณี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในไทย ยังไม่มีการเปิดรับนักเดินทางจาก 8 ประเทศกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่ 1 ธ.ค. 64 ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ก่อนหน้า จะมีการติดตามตัวและรายงานเป็นระยะ

โดยข้อมูลผู้เดินทางจากแอฟริกาเข้ามาทางอากาศกลุ่มเสี่ยงสูง 8 ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15-27 พ.ย.และช่วง 15 พ.ย.-5 ธ.ค. 64 พบว่ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังมีทั้งหมด 333 คน เข้ามาทางสนามบินในกรุงเทพฯ และสนามบินภูเก็ต แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก ออกนอกประเทศไปแล้ว 61 คน กลุ่มสอง กักตัวครบแล้ว 14 วัน มี 105 คน และกลุ่มสาม ยังกักตัวไม่ครบ 14 วัน มี 167 คน ซึ่งคนกลุ่มที่สามนี้ จะต้องติดตามให้มาตรวจ RT-PCR ซ้ำ

ซึ่งได้ส่งข้อความให้กลับมาตรวจ RT-PCR ซ้ำในสถานพยาบาลใกล้บ้าน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งทั้ง 167 คนนี้ ตามได้แล้ว 50 คน ยังเหลืออีก 133 คน ที่ต้องตามต่อเนื่อง ซึ่งติดตามโรงแรมที่เปิดรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ จะต้องลงแอปฯ หมอชนะ เพื่อเป็นช่องทางในการติดตามตัวให้ทำ RT-PCR เมื่อพ้นกำหนดกักตัวแล้ว ยังใช้ติดตามอาการในแต่ละวันด้วย

ส่วนกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำอื่นๆ 453 คน ไม่ต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำ แค่คอยติดตามอาการตัวเอง หลังจากพ้นการกักตัว 14 วัน หรือออกจาก sandbox แล้ว ซึ่งภายหลังถ้าพบว่ามีอาการจึงค่อยตรวจ

ทางด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ติดตามผู้เดินทางเข้าไทย จาก 8 ประเทศได้แล้วจำนวน 50 คน เบื้องต้นผลการตรวจ RT-PCR ยังไม่พบเชื้อโควิด-19 และสายพันธุ์โอไมครอน ได้เร่งติดตามผู้เดินทางจำนวนที่เหลือให้มารับการตรวจ รักษาและคุมไว้สังเกตต่อไป

ทั้งนี้ผู้เดินทางเข้าประเทศกลุ่มนี้ แม้จะมาจากพื้นที่ที่พบสายพันธุ์โอไมครอน แต่ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ เนื่องจากเข้าด้วยระบบแซนด์บ็อกซ์และกักตัว ซึ่งมีข้อกำหนดว่าต้องได้รับวัคซีนครบโดส มีผลการตรวจหาเชื้อ RT-PCR เป็นลบก่อนเข้าประเทศ 72 ชั่วโมง ตรวจ RT-PCR ซ้ำตั้งแต่วันแรกที่มาถึง และตรวจ ATK อีกครั้งเมื่ออยู่ในแซนด์บ็อกซ์ครบ 7 วัน จึงเดินทางต่อได้ แต่ที่ต้องติดตามให้มาตรวจหาเชื้อก็เพื่อให้เกิดความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น