ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ชี้ดอกเบี้ยขาขึ้น ไม่มีผ่อนปรนมาตรการ LTV ฉุดกำลังซื้อ

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยคาดการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2566ว่า จะทรงตัวและมีโอกาสติดลบจากปี 2565 เล็กน้อย โดยฝั่งอุปทานอาจติดลบไม่เกิน 5-6% เนื่องจากปีที่แล้วขึ้นสูงมาก

ด้านอุปสงค์การโอนกรรมสิทธิ์ จำนวนหน่วยมีโอกาสปรับลดลงถึง 10% จากทิศทางดอกเบี้ยยังเป็นขาขึ้น มีแนวโน้มจะสูงขึ้น 0.75-1% ในปีนี้ ซึ่งต้องติดตามดูการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. ) ประกอบกับ ราคาที่อยู่อาศัยที่มีการปรับตัวขึ้น และไม่มีผ่อนปรน LTV แต่รายได้ของประชาชนยังปรับตัวดีขึ้นไม่แข็งแรงนัก จะทำให้ความสามารถการซื้อและการกู้ลดลงและจะกระทบต่อยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์

อย่างไรก็ตามภาวะหนี้ครัวเรือนยังน่าเป็นห่วง เพราะอยู่ในระดับที่สูงถึงเกือบ 90% ของ GDP ทำให้สถาบันการเงินยังคงพิจารณาให้สินเชื่อตามเกณฑ์ที่เข้มงวด และกลุ่มผู้มีรายได้น้อย-ปานกลางยังเข้าถึงได้ยากขณะที่ตลาดระดับบนมีจำนวนความต้องการน้อยกว่ามาก รวมถึงเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และยังไม่แข็งแรง ซึ่งต้องพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ถ้าปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ขยายตัว อาจทำให้การเกิดเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อภาคการส่งออกและท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย อาจเกิดการชะลอตัวเศรษฐกิจได้

ขณะที่ภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ของต่างชาติใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิดแล้ว อย่างไรก็ตามการเข้ามาของต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มชาวจีนในครึ่งปีแรกยังอยู่ในช่วงการพิจารณาตัดสินใจ หากสามารถดึงดูดจากการท่องเที่ยว เปิดวีซ่าระยะยาวให้มีความมั่นใจเทียบเท่าคู่แข่งประเทศใกล้เคียงจะทำให้ชาวจีนตัดสินใจซื้อมากขึ้น โดยในปี 2565 สัดส่วนของหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ชาวจีนลดลงต่ำกว่า 50% จากเดิมเคยมีสัดส่วนสูงสุดถึงกว่า 60% จากมูลค่ายอดโอนกรรมสิทธิ์รวมของชาวต่างชาติ 1.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าไทยจะได้รับอานิสงส์เปิดประเทศของจีนอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 2566