ศูนย์วิเคราะห์ศก.เกียรตินาคินภัทร เพิ่มเป้าศก.ไทยปีนี้แตะ 3.6% ระยะยาวไทยเติบโตช้าลง

221
0
Share:
ศูนย์วิเคราะห์ศก. เกียรตินาคินภัทร เพิ่มเป้า เศรษฐกิจไทย ปีนี้แตะ 3.6% ระยะยาวไทยเติบโตช้าลง

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP Research เปิดเผยว่าได้ปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจไทยเติบโตในปีนี้จาก 2.8% เป็น 3.6% สาเหตุจากปัจจัยบวกด้านจากภาคท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว การเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดของจีน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้จะไปแตะระดับ 25 ล้านคน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 19 ล้านคน

ขณะที่เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวดีขณะที่เศรษฐกิจประเทศอื่นเริ่มชะลอตัวลง ดังนั้น จึงต้องมองหาปัจจัยใหม่ๆ ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ต่อเนื่องท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม

สำหรับภาคการส่งออกยังเป็นปัญหาสำคัญ จากตัวเลขการส่งออกเดือนธันวาคม 2565 ติดลบ 14% ซึ่งติดลบติดต่อกัน 3 เดือน และคาดการณ์ว่าส่งออกจะขยายตัวได้ 1-2% แม้การส่งออกช่วงต้นปี 2565 การส่งออกดีมาก แต่เริ่มแผ่วลงจากภาวะการซึมตัวเศรษฐกิจโลก การขยับพฤติกรรมจากการบริโภคภาคบริการมากกว่าการใช้สินค้า รวมถึงการค้าโลกทยอยปรับตัวลดลง

ภาคการค้า การส่งออก จึงได้รับผลกระทบส่งผลให้หลายประเทศส่งออกหดตัว อาทิ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน เวียดนาม รวมถึงไทย ซึ่งผลกระทบนี้ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวไม่ทั่วถึง และไม่เท่าเทียม เพราะจะเห็นภาคบริการจากภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวมากขึ้น ขณะเดียวกันการส่งออก ภาคการผลิตจะหดตัวลง” นายพิพัฒน์กล่าว

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP Research กล่าวว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยนั้น แม้เงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลงและอาจกลับเข้าสู่เป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยได้ที่ 1-3% ช่วงกลางปี 2566 แต่ด้วยอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ขยับขึ้นช้ากว่าประเทศอื่นๆ ที่คงดอกเบี้ยระดับสูง จึงเชื่อว่าแบงก์ชาติยังคงทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยเข้าสู่ภาวะปกติแบบค่อยเป็นค่อยไป

นอกจากนี้ คาดว่าแบงก์ชาติจะปรับอัตราดอกเบี้ยแตะ 2% ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ซึ่งดอกเบี้ยสูงขึ้นจะเป็นปัญหาและแรงกดดันหนึ่งส่งผลให้ต้นทุนด้านการเงินของผู้ประกอบการสูงขึ้น รวมถึงรายย่อย หรือเอสเอ็มอี จะได้รับผลกระทบอยู่มากเช่นกัน ดังนั้น จึงเป็นช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นอยู่ในช่วงต้นปี ขณะที่การส่งออกที่ชะลอลงนั้น จะเป็นตัวหลักในการฉุดรั้งเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก แต่ครึ่งปีหลัง เมื่อจีนเปิดประเทศเต็มที่ก็กระเตื้องขึ้นบ้าง แต่ภาพรวมแล้วยังคงติดลบ

นายพิพัฒน์กล่าวว่า ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตช้าลงจากวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้น เรื่องสำคัญที่ต้องพัฒนาในระยะยาวและยังเป็นความท้าทายเศรษฐกิจไทย คือ การผลักดันให้เกิดการแข่งขันในระดับประเทศมากขึ้น ซึ่งไทยจะโตไปข้างหน้าได้นั้นเป็นความท้าทายตั้งแต่เรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจ นโยบายการแข่งขัน การผลักดันการส่งออก โดยประเด็นเหล่านี้เป็นประเด็นเชิงโครงสร้างที่ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งประเด็นที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงคือการเลือกตั้ง มองว่ามีความหวังเพราะประเด็นเหล่านี้ จะถูกหยิบยกให้เกิดการแก้ปัญหา หรือจัดการกับความท้าทายเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจไทยอย่างไร