สถานทูตจีนในศรีลังกาไม่พอใจข่าวบุคลากรแพทย์ไทยติดโควิดกว่า 600 ที่ฉีดซิโนแวค 2 โดสของรอยเตอร์

สถานเอกอัครราชทูตจีนในศรีลังกา ได้ทวีตข้อความตอบโต้สำนักข่าวรอยเตอร์ ที่นำเสนอข่าวบุคลากรทางการแพทย์ของไทยติดโรคระบาดโควิด-19 กว่าหลายร้อยคน ถึงแม้ว่าบุคลากรทางการแพทย์จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดซิโนแวคครบทั้ง 2 โดสแล้ว

สถานทูตจีนในศรีลังกาโพสต์ข้อความในทวีตเตอร์ในวันนี้ 11 กรกฎาคม มีข้อความว่า “พยายามอย่างดีมากรอยเตอร์ ทำไมถึงไม่แสดงประสิทธิภาพที่แท้จริง แทนการนำเสนอที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และการพาดหัวในทางตรงกันข้าม”

.

“ซิโนแวค แสดงให้เห็นการมีประสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 ได้ 99.9078% และมีประสิทธิภาพ 99.999% ในการป้องกันการเสียชีวิตและการป่วยรุนแรงให้แก่บุคลากรการแพทย์ในไทยจำนวน 677,348 คน”

“ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (10 พฤษภาคม – 10 กรกฎาคม) ประเทศไทยติดเชื้อรายใหม่ 241,827 ราย คิดเป็น 71.89% ของจำนวนติดทั้งหมด นั่นคือผลอันน่าทึ่งของวัคซีนซิโนแวคที่เกิดขึ้นในชาติอาเซียนเพื่อสร้างความแตกต่าง”

.

กรณีการนำเสนอข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ เป็นผลมาจาก นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคแถลง เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าของสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในวันนี้ 11 กรกฎาคม โดยยอมรับว่าการระบาดในรอบที่ 3 ตั้งแต่เมษายนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม พบว่าบุคลากรการแพทย์จำนวน 880 ราย มีราว 19.7% ไม่มีประวัติถูกฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19

ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง โดย 54% เป็นพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาล รองลงมาคือ บุคลากรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย 28% ตามมาด้วยแพทย์/ทันตแพทย์ (7%) แม่บ้าน (6%) เป็นต้น ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 20-39 ปี

.

บุคลากรทางแพทย์ได้รับวัคซีนไปแล้วมากว่า 97% จากเป้าหมายทั้งหมดราว 700,000 คน โดยมีรายงานว่ามีบุคลากรทางการแพทย์เสียชีวิตแล้ว 7 ราย ในจำนวนนั้นไม่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 5 ราย ได้รับวัคซีนซิโนแวคไม่ครบจำนวน 1 ราย และได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 โดสอีก 1 ราย

กองระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าบุคลากรทางการแพทย์ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วมากกว่า 97% จากเป้าหมายประมาณ 700,000 คน สถิติการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อโควิดของบุคลากรทางการแพทย์ที่น่าสนใจ มีดังนี้

.

ฉีดวัคซีนซิโนแวค 1 เข็ม มีจำนวน 22,062 คน พบติดเชื้อ 68 คน หรือคิดเป็น 308 ต่อ 100,000 ราย ไม่มีอาการหรืออาการน้อย 67 คน เสียชีวิต 1 คน

ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มีจำนวน 677,348 คน พบติดเชื้อ 618 คน หรือคิดเป็น 91 ต่อ 100,000 ราย ไม่มีอาการหรืออาการน้อย 597 คน อาการปานกลาง 19 คน อาการรุนแรง (ใช้ออกซิเจน High Flow) 1 คน เสียชีวิต 1 คน (พยาบาลที่เป็นข่าว)

ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 1 เข็ม มีจำนวน 66,913 คน ติดเชื้อ 45 คน หรือ 67 ต่อ 100,000 ราย ไม่มีอาการหรืออาการน้อย 43 คน อาการปานกลาง 1 คน อาการรุนแรง 2 คน (ใช้ออกซิเจน High Flow และใส่ท่อช่วยหายใจอย่างละ 1 คน) ไม่มีผู้เสียชีวิต

.

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ขอยืนยันว่าคนที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสที่จะป่วยรุนแรงน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ไวรัสในช่วงเดือนมิถุนายนต่อมาถึงกรกฎาคมที่มีสายพันธุ์เดลตาเป็นหลัก ทำให้การป้องกันโดยวัคซีนซิโนแวคอาจจะไม่ได้ผลดีเท่ากับเชื้อเดิม

ดังนั้นผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว 2 เข็ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ต้องดูแลรักษาผู้ป่วย คณะกรรมการวิชาการก็ได้ให้ความเห็นว่าควรจะได้รับวัคซีนกระตุ้นอีก 1 เข็ม ซึ่งตอนนี้เราก็เตรียมวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ซึ่งสามารถที่จะดำเนินการได้ในสัปดาห์หน้าในการฉีดเป็นเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น ส่วนท่านที่ประสงค์ที่จะฉีดวัคซีน mRNA หรือ ไฟเซอร์ก็ต้องรออีกสักระยะหนึ่ง