สธ.เผยไทยเจอผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในประเทศรายแรก

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองโรคระบาด กล่าวถึงกรณีที่พบผู้ป่วยติดเชื้อโอไมครอนในประเทศ 1 ราย เป็นคู่สามีภรรยา โดยสามีเป็นนักบิน สัญชาติโคลัมเบีย ได้รับวัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็ม มีประวัติโรคเบาหวาน เมื่อวันที่ 26 พ.ย.64 ได้เดินทางจากไนจีเรียเข้าไทย ผ่านระบบ sandbox ที่ กทม. ผลตรวจเบื้องต้น RT-PCR ไม่พบการติดเชื้อ หลังจากนั้นอยู่ในระบบ sandbox ที่สามารถเดินทางออกนอกโรงแรมได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมกำกับ ต่อมาพบเชื้อและพบว่าเป็นสายพันธุ์โอไมครอน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. และได้พบว่าภรรยาได้ติดเชื้อจากสามี ภรรยาจึงถือว่าติดเชื้อโอไมครอนในประเทศไทยรายแรก

สำหรับประวัติการเดินทาง สามีได้เช่ารถมอเตอร์ไซค์ไปตรวจตาที่ รพ.แห่งหนึ่ง โดยได้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และไม่พบเจอผู้อื่น มีประวัติไปซื้อของร้านค้าใกล้โรงแรม ทานข้าวเที่ยงที่ห้าง สวมหน้าตลอดเวลา เมื่อวันที่ 30 พ.ย. อยู่ในโรงแรม ต่อมาวันที่ 1 ธ.ค. เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ เข็ม3 ที่ รพ.เอกชน หลังจากนั้น เริ่มมีไข้ตัวร้อน มีตรวจ ATK ผลเป็นลบ ต่อมาวันที่ 2 ธ.ค. จึงไปพบแพทย์ที่ รพ. โดยผลตรวจไวรัสอื่นเป็นผลลบทั้งหมด ผลเอกซเรย์ปอดปกติ และเมื่ออยู่ในระบบแซนก์บ็อกซ์ ครบ 7 วันตามการกักตัวที่โรงแรม

หลังจากนั้นผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวได้เดินทางกลับบ้านที่ จ.ปทุมธานี อยู่กับภรรยา ต่อมาวันที่ 4 ธ.ค. เริ่มมีอาการไข้ ไอเจ็บคอ อ่อนเพลียมากขึ้น ผลตรวจ ATK ยังเป็นลบอยู่ ต่อมาวันที่ 7 ธ.ค. อาการเริ่มเหนื่อยมากขึ้นแต่ยังมีสติ เดินทางได้ จึงไป รพ.ที่ไปฉีดวัคซีน ผลตรวจ RT-PCR เป็นบวก และภรรยาที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงก็อยู่กักตัวที่บ้าน และเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ไปตรวจ RT-PCR เป็นบวก และผลของสามีออกมาว่าเป็นพันธุ์โอไมครอน จึงมีการตรวจหาโอไมครอนในภรรยาด้วย หลังจากนั้นมีการยืนยันว่าเป็นโอไมครอนทั้งคู่

ทั้งนี้ ภรรยารายนี้จะเป็นคนแรกของไทยที่ติดเชื้อจากผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศและเป็นการติดเชื้อโอไมครอนในประเทศรายแรก ส่วนผู้สัมผัสบนเครื่องบินไม่มี เนื่องจากนั่งห่างกันตามมาตรการ อย่างไรก็ตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของภรรยาคือ คนขับแท็กซี่ไปส่ง รพ. ได้มีการตรวจ RT-PCR ผลเป็นลบ และอยู่ระหว่างการกักตัว 14 วัน และตรวจยืนยันครั้งที่2 คาดว่าผลออกพรุ่งนี้ ล่าสุดอาการของสามีปัจจุบันมีอาการเชื้อลงปอด อาการหนักขึ้น แต่ไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ สำหรับภรรยา ได้รับวัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็มแล้ว และไม่มีอาการรุนแรง