สนพ. เผยน้ำมันเบนซินสิงคโปร์แพงสุดในอาเซียนที่ 77.45 บาท/ลิตร ดีเซล 72.36 บาท

194
0
Share:
สนพ. เผย น้ำมันเบนซิน สิงคโปร์ แพงสุดในอาเซียนที่ 77.45 บาท/ลิตร ดีเซล 72.36 บาท

นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลของประเทศไทยและต่างประเทศ ณ วันที่26 กุมภาพันธ์2567 พบว่า ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน ประเทศสิงคโปร์มีระดับสูงสุดในกลุ่มอาเซียน อยู่ที่ระดับ 77.45 บาทต่อลิตร ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 6 ของกลุ่มอาเซียน อยู่ที่ระดับ 38.05 บาทต่อลิตร ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลนั้น ประเทศสิงคโปร์ มีระดับสูงสุดในกลุ่มอาเซียน อยู่ที่ระดับ 72.36 บาทต่อลิตร ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 8 ของกลุ่มอาเซียน อยู่ที่ระดับ 29.94 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตาม ราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปในแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้าง มาตรการด้านภาษี และนโยบายการชดเชยราคาน้ำมันของประเทศนั้น

นายวีรพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สนพ. ยังได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลก (ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2567) พบว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวน โดยราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 81.53 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.69 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 78.64 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สำหรับสถานการณ์ราคากลางน้ำมันสำเร็จรูปตลาดภูมิภาคเอเชีย พบว่า ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 100.54 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (10 PPM) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 104.01 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 1.91 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

เนื่องจากค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.06 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 36.08 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 0.09 บาทต่อลิตร และต้นทุนน้ำมันดีเซลลดลง 0.48 บาทต่อลิตร จึงส่งผลทำให้ค่าการตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของน้ำมันกลุ่มเบนซินและน้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 2.43 บาท/ลิตร ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 10 มีนาคม 2567 กองทุนฯ มีสินทรัพย์รวม 29,709 ล้านบาท หนี้สินกองทุนฯ 124,592 ล้านบาท ฐานะกองทุนฯ สุทธิติดลบ 94,883 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 48,047 ล้านบาท บัญชี LPG 46,836 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สนพ. จะติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ราคาสะท้อนกับสถานการณ์ปัจจุบันและเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน