สปป.ลาว เตรียมลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเหลือ 0% เล็งขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ใช้น้ำมันเป็น 70%
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ในที่ประชุมของผู้แทนองค์คณะพรรค กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ ได้มีการพิจารณาแนวทางสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)ทั่วประเทศ ซึ่งได้เห็นตรงกันว่านโยบายและกลไกตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอ และมีข้อจำกัดที่จะจูงใจให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน จึงได้เตรียมข้อเสนอให้รัฐบาลพิจารณา ได้แก่
1. ลดภาษีเงินได้สำหรับธุรกิจนำเข้า และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า จาก 20% เหลือ 10%
2. ตั้งแต่ปี 2565-2568 ให้กำหนดสัดส่วนโควต้านำเข้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันได้สูงสุด 70% อีก 30% ต้องเป็นการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า จากนั้นในปี 2569-2573 ให้ลดการนำเข้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเหลือ 50% และตั้งแต่ปี 2574 เป็นต้นไป กำหนดให้รถยนต์ที่จะนำเข้ามา ต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 50%
3. ให้รัฐบาลสร้างกลไกควบคุมราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไม่ให้สูงจนเกินไป
4. ส่งเสริมให้ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากต่างประเทศ เข้ามาเปิดศูนย์บริการในลาว
และที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางเพิ่มรายได้เข้าสู่งบประมาณของรัฐ เพื่อทดแทนรายรับที่เสียไปจากการสนับสนุนให้ประชาชนเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยเสนอให้
1. ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน จากเดิม 35-40% เป็น 70%
2. เพิ่มภาษีการใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันแต่ละประเภทขึ้นมาอีกประเภทละ 5%
3. ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน จากเดิม 10% เป็น 20%
นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาโครงสร้างค่าไฟฟ้า สำหรับประชาชนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า และต้องมีการชาร์จไฟอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
1. ค่าไฟฟ้าสำหรับชาร์จไฟตามบ้าน หรือที่อยู่อาศัย ให้คิด 955 กีบต่อกิโลวัตต์/ชั่วโมง(kWh) ในฤดูร้อน (ประมาณ 2.73 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 350 กีบ = 1 บาท) และ 677 กีบ/kWh ในฤดูฝน คิดเป็นค่าไฟเฉลี่ยประมาณ 816.5 กีบ/kWh(2.33 บาท)
2. ค่าชาร์จไฟแบบเร็วตามสถานีชาร์จ สำหรับการชาร์จต่ำกว่า 1 ชั่วโมง ให้คิด 1,826 กีบ/kWh ในฤดูแล้ง และ 1,539 กีบ/kWh ในฤดูฝน คิดเป็นค่าไฟเฉลี่ย 1,682.5 กีบ/kWh(4.81 บาท)
โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลลาวได้ประกาศสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง และสนับสนุนการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ลาวสามารถผลิตขึ้นได้เอง และเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 64 พันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีของลาว ได้ประกาศนโยบายเปิดเสรีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าทุกด้าน ทั้งการนำเข้า จัดจำหน่าย การตั้งโรงงานประกอบ การตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า อู่ซ่อมบำรุง
ทางด้าน จันโท มีลัดตะนะไซ หัวหน้าสถานีค้นคว้าพลังงานทดแทน กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ เผยว่านโยบายนี้รัฐบาลจะกำหนดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเหลือ 0% คิดภาษีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพียง 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% และไม่จำกัดโควต้าการนำเข้า โดยได้ยังมีแผนเปลี่ยนรถยนต์ที่จะใช้ในหน่วยงานรัฐ ให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในอนาคต
