“สมคิด”วอนไทยควรก้าวข้ามคำว่าเปอร์เซ็นต์

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการหารือกับผู้บริหารกระทรวงการคลัง // ธนาคารแห่งประเทศไทย // คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน //ผู้บริหารแบงก์รัฐ และเอกชนว่า ต้องหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2563 เพราะไทยยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ทำให้การขยายตัวชะลอ โดยเฉพาะการดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยให้ทุกฝ่ายไปหารือมาตรการร่วมกันเพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เห็นชอบหลังปีใหม่ 2563 ทันที
.
สำหรับแนวทางมาตรการช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี แบ่งเป็น 2 กลุ่มแรก คือผู้ประกอบการที่เจอปัญหารุนแรง ต้องมีมาตรการช่วยให้อยู่รอด และกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มที่ยังดีก็ต้องมีมาตรการเข้าไปดูแลป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ซึ่งให้ทางสถาบันการเงินไปหารือการปล่อยสินเชื่อเอสอีแบบผ่อนปรน ทั้งค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย และให้ทางบรรษัทค้ำประกันสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อมเข้าช่วยค้ำประกัน
.
นอกจากนี้ ยังให้มีการหารือออกมาตรการช่วยเหลือผู้เป็นหนี้บัตรเครดิตและเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง ว่าจะผ่อนคลายดอกเบี้ยอย่างไรเพื่อให้ผู้เป็นหนี้มีภาระลดลง
.
ส่วนการประเมินว่าเศรษฐกิจปี 2563 จะขยายตัวได้ไม่ถึง 3% ตนเห็นว่าเศรษฐกิจของเราก้าวข้ามคำว่าเปอร์เซ็นต์ ไม่จำเป็นว่าตัวเลขขยายตัวได้มากแล้วเศรษฐกิจไทยจะดีจริง เศรษฐกิจไทยแข็งแรงพอสมควร แม้ชะลอตัวแต่ยังขยายตัวเป็นบวก
.
ดังนั้นถ้าจะเอาเปอร์เซ็นต์ตัวเลขเศรษฐกิจสูงจะทำได้ไหม ถ้าไม่ได้ทำอย่างไรในวันนี้ เพื่อให้ในอนาคตข้างหน้าเศรษฐกิจขยายตัวได้ 3-4% ต้องดูว่ามันดีแบบยั่งยืนหรือเปล่า เมืองไทยมีดี อยากให้มองในแง่บวก ถ้ามองโลกไม่ดี เศรษฐกิจก็จะไม่ดี ส่วนนักลงทุนจะเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยปีหน้าหรือไม่หากขยายตัวได้ไม่ถึง 3% ต้องไปถามหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล
.
ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยเคยแย่กว่านี้ ยังกลับมาฟื้นได้ มั่นใจถ้าภาครัฐลงมาช่วยเอกชนแบบนี้ ถ้ามีการเข้าใจกัน ช่วยกัน หลายเรื่องมีแววไปในทิศทางที่ดี ทั้งการปล่อยสินเชื่อ ดอกเบี้ย จัดซื้อ ภาคเอสเอ็มอีจะได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกต้องมากขึ้น