สรรพากรจับมือกรุงไทย เพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้เสียภาษียืนยันตัวตนผ่านแอปฯ เป๋าตัง

262
0
Share:
กรมสรรพากร จับมือ กรุงไทย เพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้เสีย ภาษี ยืนยันตัวตน ผ่านแอปฯ เป๋าตัง

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร และนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมลงนามในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ ระหว่าง กรมสรรพากร กับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษี เพื่อเข้าใช้งานระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรเป็นหน่วยงานจัดเก็บภาษีที่ให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกเพื่อให้ผู้เสียภาษี และภาคธุรกิจทำธุรกรรมทางภาษีได้อย่างสะดวก รวดเร็วและใช้บริการได้อย่างปลอดภัย โดยคำนึงถึงความรอบคอบและให้ความระมัดระวังเรื่องของข้อมูลภาษี ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งกรมสรรพากรมีนโยบายพัฒนาการให้บริการผู้เสียภาษีผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กระบวนการพิสูจน์และยืนยันตัวตนที่มีมาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นสิ่งที่กรมสรรพากรให้ความสำคัญโดยความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ เป็นการนำบริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นแอปฯ ที่ได้รับความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ผ่านกระบวนการการยืนยันตัวตนก่อนเข้าถึงบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่กรมสรรพากรได้จัดเตรียมไว้ให้กับผู้เสียภาษี ได้แก่ บริการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผ่านอินเทอร์เน็ต (e-Filing) ระบบตรวจสอบข้อมูลทางภาษี (My Tax Account) ระบบภาษีหัก ณ ที่จ่าย (e-Withholding Tax) ระบบตรวจสอบเงินบริจาค (e-Donation) ระบบยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี ผ่านแอปพลิเคชัน (RD Smart TAX) และระบบรับชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp Duty) รวมทั้งบริการ ทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ของกรมสรรพากรที่จะพัฒนาเพิ่มอีกในอนาคต

การให้บริการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์บนแอปฯ “เป๋าตัง” เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยพัฒนาโดย บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับภาครัฐและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง เป็นแอปพลิเคชันที่ส่งเสริม ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางดิจิทัลต่างๆ รวมถึงเป็นช่องทางการชำระภาษีที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น มีระดับความน่าเชื่อถือของอัตลักษณ์เป็นไปตามกฎหมาย และข้อกำหนดของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงกฎหมายด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือ PDPA อีกทั้งยังเป็นการนำเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้ในการให้ข้อมูลธุรกรรมภาษีอีกด้วย