สรรพากรจ่อตัดโปรลดหย่อนภาษี 20 รายการถูกรื้อ หลังรายได้รัฐต่อจีดีพีตกต่ำเกณฑ์มาตรฐาน

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังต้องการปฏิรูปภาษีเพื่อเพิ่มรายได้ให้รัฐบาล ให้มีงบประมาณเพียงพอต่อรายจ่าย แต่มาตรการใดที่จะออกมานั้น จะต้องไม่ทำให้เกิดอาการช็อกต่อระบบเศรษฐกิจ ซึ่งอะไรที่รุนแรงเกินไปอาจทำให้เศรษฐกิจช็อก จำเป็นต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น ค่าลดหย่อนทางภาษีที่ให้มากไป จำเป็นต้องทยอยลดลงมา

ปัจจุบันกรมสรรพากรมีการลดหย่อนภาษีหลายรายการ เช่น ค่าใช้จ่ายในการซื้อกองทุนฯ ค่าใช้จ่ายในการซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต ดอกเบี้ยจากเงินกู้ซื้อบ้าน เป็นต้น ซึ่งเมื่อนำรายการค่าลดหย่อนมารวมกันแล้ว คิดเป็นวงเงินค่าลดหย่อนทางภาษีที่สูง ดังนั้น แนวทางที่พิจารณาแนวทางหนึ่งก็คือ อาจรวมวงเงินค่าลดหย่อนรวมเป็นก้อนหนึ่ง ผู้เสียภาษีอาจเลือกใช้ค่าลดหย่อนทางภาษีในรายการที่กำหนด แต่เมื่อรวมทุกรายการแล้ว จะต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนดไว้ โดยค่าลดหย่อนทางภาษีบางรายการ เช่น ค่าลดหย่อนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรืออาร์เอ็มเอฟ ซึ่งเป็นมาตรการที่มีส่วนช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดทุน และใช้มานานแล้ว สมควรลดลงได้หรือไม่

ทั้งนี้ นโยบายปฏิรูปโครงสร้างภาษีดังกล่าวมีความสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันรายได้ภาษีของรัฐบาลคิดเป็นเพียง 14% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพีเท่านั้น โดยตามหลักการควรที่จะอยู่ที่ 15-16% ของจีดีพี ในช่วงผ่านมา กระทรวงการคลังได้เสนอแผนการปฏิรูปภาษีให้ทุกรัฐบาลพิจารณา โดยแผนดังกล่าวมีภาษีราว 20 รายการ