สสว.เผยธุรกิจสุดฮอตโต 2 ปีและโตปีเดียวในปี 67 โชห่วย-ผับบาร์-ซักผ้าหยอดเหรียญ

358
0
Share:
สสว.เผย ธุรกิจ สุดฮอตโต 2 ปีและโตปีเดียวในปี 67 โชห่วย -ผับบาร์-ซักผ้าหยอดเหรียญ

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือสสว. เปิดเผยสถานการณ์และแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในกลุ่มเอสเอ็มอีในปี 2567 พบว่า มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มดาวรุ่งต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน ปี 2566 และปี 2567 ได้แก่

1. ธุรกิจขายของชำ หรือ ร้านโชห่วย เติบโต 940% เนื่องจากสามารถซื้อสินค้าครั้งละน้อยๆ ยืดหยุ่นในการชำระเงิน ใกล้ชิดชุมชน

2. ธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนสัมผัสวัฒนธรรมชนบท เติบโต 187% หลังโควิด-19 ทำเทรนด์ท่องเที่ยวของโลกเปลี่ยนไป เน้นสัมผัสธรรมชาติ วิถีชีวิตชุมชน

3. ธุรกิจขายของในบ้านมือสอง และซ่อมเฟอร์นิเจอร์ เติบโตกว่า 263% จากกำลังซื้อลดลง และเทรนด์รักษ์โลก

4. ธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ อาทิ การตัดต่อ และการจัดผังรายการ เติบโต 199% เนื่องจากโควิด-19 ทำธุรกิจปรับกลยุทธ์ไปออนไลน์ เข้าสู่อาชีพยูทูปเบอร์ การสร้างกระแสในโลกโซเชียล

5. ธุรกิจผับ บาร์ ร้านขายแอลกอฮอล์ เติบโต 125% หลังโควิด-19 ท่องเที่ยวยามราตรีปกติ เป็นธุรกิจกำไรสูง คืนทุนได้เร็ว

ด้านกลุ่มธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงเฉพาะในปี 2567 ได้แก่
1. ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เติบโตสูงถึง 1,925% ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่กลุ่มคนต้องการใช้เวลาทำกิจกรรมในชีวิตหรือพักผ่อน คาดจะขยายตัวในเขตชุมชนจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

2. การผลิตน้ำอัดแก๊สและโซดา เติบโต 1,109% หลังโควิดคลี่คลายผลิตภัณฑ์น้ำดื่มได้รับความนิยม มีรสชาติและรูปแบบแปลกใหม่มากขึ้น

3. ร้านตัดเย็บและซ่อมเครื่องแต่งกาย เติบโต 667% จากเศรษฐกิจชะลอตัว หลังโควิดผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายนำเสื้อผ้าเก่ามาแก้เพื่อใช้งานหรือการหาซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ราคาถูกแต่ต้องปรับแก้ทรงเนื่องจากไม่ได้ลองก่อนซื้อ

4. กิจกรรมสันทนาการ อาทิ ร้านขายเครื่องดนตรี ร้านเกม เติบโต 349% เนื่องจากสถานการณ์ปกติ 5.บริการเกี่ยวกับงานศพครบวงจร เติบโต 285% ตอบสนองคนเมือง ครอบครัวขนาดเล็ก เลือกตามงบประมาณลูกค้า อีกทั้งประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยธุรกิจจึงเติบโต 6.ธุรกิจร้านเสริมสวย เติบโต 193% จากเศรษฐกิจฟื้นตัว

ผู้อำนวยการ สสว. เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับธุรกิจในกลุ่มเฝ้าระวัง มี 2 กลุ่มเช่นกัน คือ เฝ้าระวัง 2 ปีต่อเนื่อง 2566 และ 2567 คือ ธุรกิจหอพักนักศึกษา เนื่องจากสถานศึกษามีการเรียนการสอนแบบออนไลน์มากขึ้น ขณะที่นักศึกษาส่วนใหญ่เลือกพักห้องเช่าแบบอพาร์ทเม้นท์และคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น

ส่วนธุรกิจที่เริ่มต้องเฝ้าระวังเฉพาะในปี 2567 เนื่องจากเคยเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงจากปี 2566 แต่ในปี 2567 มีแนวโน้มชะลอตัวลง มี 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือสอง อาทิ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หดตัวมากถึง 82% เนื่อกจากปัจจุบันสินค้ามือหนึ่งราคาถูกลงมาก มีหลายระดับให้เลือก 2. ธุรกิจขายงานฝีมือและของที่ระลึก อาทิ เครื่องเงิน เครื่องจักรสานตามสถานที่ท่องเที่ยว หดตัวถึง 75% เนื่องมาจากการขายสินค้าในออนไลน์เป็นที่นิยม ทำให้มีแรงกระตุ้นน้อยลงที่จะซื้อสินค้าจากการไปท่องเที่ยวที่นั้นๆ และ 3. ธุรกิจเกสเฮ้าส์ หดตัวกว่า 65% เนื่องจากหลังโควิด-19 นักท่องเที่ยวนิยมพักระยะสั้น-กลาง หันไปนิยมห้องพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า หรือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวมากขึ้น