สหรัฐพบติดโรคโควิด-19 พันธ์ุโอไมครอนเพิ่มใหม่ 2 ราย ลอสแองเจลิสและฮาวาย

407
0
Share:

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ CDC แถลงว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 1 รายในเมืองลอส แองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย และ 1 รายที่รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ทำให้รัฐแคลิฟอร์เนียมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนสะสมเป็น 2 ราย โดยรายแรกของรัฐดังกล่าวรวมถึงเป็นรายแรกของสหรัฐอเมริกาตรวจพบที่เมืองซาน ฟรานซิสโก

ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 1 ราย อยู่ที่ลอส แองเจลิส ตรวจสอบประวัติพบว่าเดินทางกลับจากแอฟริกาใต้มาถึงสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 พบว่ามีอาการป่วยปานกลาง ทำการกักตัวที่บ้านตั้งแต่วันที่ตรวจพบเชื้อจนกระทั่งอาการเริ่มดีขึ้น ผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่ผู้ใกล้ชิดถูกตรวจหาเชื้อ โดยผลตรวจเป็นลบ ไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด

ผู้ว่าการรัฐฮาวาย เปิดเผยว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 1 ราย เป็นผู้ชายสูงอายุ 65 ปี มีอาการป่วยปานกลางค่อนไปถึงรุนแรง แต่ยังไม่จำเป็นต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ผู้ติดเชื้อรายนี้ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ หรือข้ามรัฐในสหรัฐอเมริกา จึงทำให้เป็นที่ประเมินว่า สายพันธุ์โอไมครอนสามารถระบาดในท้องถิ่น และอาจต้องตรวจสอบต่อไปว่า เปิดการกลายพันธุ์ภายในท้องถิ่นจากสายพันธุ์เดิม หรือสายพันธุ์อื่นๆหรือไม่

ก่อนหน้านี้ในช่วง 24 ชั่วโมงผ่านมา ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ค นางแคธี่ โฮชูล เปิดแถลงว่า ตรวจพบผู้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 5 รายในรัฐนิวยอร์ก ถือเป็นการตรวจพบการติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวครั้งแรกของรัฐนิวยอร์ก ทั้ง 5 รายที่ติดเชื้อกลายพันธุ์ ดังนี้ 1 รายที่เมืองซัฟโฟล์ค(Suffolk) 1 รายที่ย่านบรูคลิน 1 รายที่เมืองนิวยอร์ค และ 2 รายที่เมืองควีนส์

ในช่วงหลายชั่วโมงก่อนที่รัฐนิวยอร์คจะประกาศพบผู้ติดเชื้อทั้ง 5 รายนั้น รัฐมินเนโซตา สหรัฐอเมริกา ประกาศพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนรายที่ 2 ของสหรัฐอเมริกา และเป็นรายแรกในรัฐดังกล่าว เป็นผู้ชายชาวอเมริกันที่เดินทางกลับมาจากนิวยอร์คหลังจากไปร่วมงานแสดงแอนิเมชั่นที่จัดขึ้นในนิวยอร์คในช่วงวันที่ 19-21 พฤศจิกายน โดยจัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการเจวิทส์ (Javits Center) ผู้ติดเชื้อรายนี้ไม่มีประวัติเดินทางออกนอกประเทศมาก่อน นายบิลล์ เดอ แบลซิโอ ผู้ว่าการรัฐมินเนโซตา แถลงว่า อาจเป็นไปได้มากที่เกิดภาวะการแพร่ระบาดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนภายในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ผู้ติดเชื้อวัยผู้ใหญ่รายนี้ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส และเข็มบูสเตอร์เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เริ่มมีอาการวันที่ 22 และตรวจพบเชื้อวันที่ 24 พฤศจิกายน

รัฐโคโลราโด้ สหรัฐอเมริกา ประกาศพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเป็นรายที่ 3 ในสหรัฐอเมริกา และเป็นรายแรกในรัฐดังกล่าวเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อเป็นหญิงวัยผู้ใหญ่ซึ่งเดินทางกลับจากประเทศแอฟริกาใต้เมื่อเร็วๆนี้ ผู้ป่วยรายนี้มีอาการปานกลาง ทำการกักตัวที่บ้าน นอกจากนี้ เธอได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส และรอการฉีดเข็มบูสเตอร์แต่มาติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนก่อน

ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย นายเกวิน นิวซอม เปิดเผยว่า จากการตรวจพบชาวอเมริกันติดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนคนแรกของรัฐแคลิฟอร์เนีย และของประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ไม่มีเหตุผลที่ต้องตื่นตกใจกลัว แต่ชาวอเมริกันต้องตื่นตัวในการะมัดระวังตัว นั่นหมายถึง ต้องไปรับการฉีดวัคซีน รับการฉีดเข็มกระตุ้น สวมใส่หน้ากากอนามัยในที่กลางแจ้ง

ทั้งนี้ ศูนย์ CDC รายงานว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) มีจำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 พุ่งขึ้น 132,822 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันมากกว่าวันละ 100,000 รายเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในรอบ 10 วันผ่านมา รวมติดเชื้อสะสมเป็น 49,716,825 ราย อยู่อันดับที่ 1 ของโลก และเป็นอันดับที่ 4 ในยุโรป ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่พุ่งขึ้น 1,264 ราย ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 806,398 ราย ทำสถิติเสียชีวิตสะสมมากที่สุดอันดับ 1 ของโลก