สหรัฐเผยพันธ์ุโอไมครอนเป็นสายพันธุ์หลักระบาดในสหรัฐ พบกว่า 70% ของผู้ป่วยใหม่

397
0
Share:
โอไมครอน

นางเจน ปาสกี้ โฆษกทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโจ ไบเดน มีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นผลลบ ไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด หลังจากนายโจ ไบเดน เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับหนึ่งในคณะทำงานที่ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีผลตรวจเจอเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ชายคนดังกล่าวใกล้ชิดกับนายโจ ไบเดน เป็นเวลา 30 นาทีลนเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ฟอร์ส วัน เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม ซึ่งบินจากจากเซ้าท์ แคโรไลน่าไปยังฟิลลาเดลเฟีย ผู้ติดเชื้อชายคนดังกล่าวได้รับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์มาก่อนหน้านี้แล้ว และตรวจหาเชื้อเป็นผลลบก่อนจะออกเดินทางร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาบนเครื่องบินประจำตำแหน่ง

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ CDC เปิดเผยว่า ในขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ตรวจพบติดโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนถึง 73% ส่งผลให้สถานการณ์การระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนกลายเป็นสายพันธุ์หลักระบาดในสหรัฐอเมริกา โดยแทนที่สายพันธุ์เดลต้าที่พบการระบาดที่ 26.6% ซึ่งเป็นข้อมูลถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

ศูนย์ CDC เปิดเผยต่อไปว่า โดยเพียงสัปดาห์เดียวก่อนถึงวันนี้ สายพันธุ์เดลต้าเป็นสายพันธุ์หลักถึง 87% ในขณะที่สายพันธุ์โอไมครอนระบาดเพียง 12.6% ในสหรัฐอเมริกา และทั้งๆที่ในภาพรวมจะพบว่า 73% ของการระบาดในสหรัฐอเมริกาเป็นสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว แต่ในหลายภูมิภาคของสหรัฐอเมริกาพบการระบาดของสายพันธุ์พันธ์ุดังกล่าวสูงถึงกว่า 90% ได้แก่ บริเวณภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ศูนย์ CDC เปิดเผยว่า การพบการระบาดสายพันธุ์โอไมครอนในสหรัฐอเมริกานั้น ไม่เป็นที่ชัดเจนและยืนยันได้ว่าสายพันธุ์ดังกล่าวเข้ามาในสหรัฐอเมริกาเมื่อไหร่ โดยรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐแรกที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ผู้ป่วยคนดังกล่าวมีอาการเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564