สหรัฐเร่งคนเมกันฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 หลังเจอโควิดเดลตาระบาดหนักทางตอนใต้ ทำผู้ป่วยเริ่มล้นโรงพยาบาล

352
0
Share:

โควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้แพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่ทางตอนใต้ของสหรัฐ รวมถึงรัฐฟลอริดา รัฐลุยเซียนา และรัฐอาร์คันซอ ทำให้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก ทำให้เริ้มที่ไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างทั่วถึงเเล้ว ซึ่งรัฐฟลอริดามีจำนวนผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเกิน 10,000 รายแล้ว ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดของรัฐ ขณะที่จำนวนผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลของรัฐลุยเซียนาก็ได้ใกล้ที่จะทำสถิติสูงสุดเช่นกัน

.

ทางด้านผู้ว่าการรัฐลุยเซียนาได้สั่งให้ประชาชนกลับไปสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคาร ขณะที่แพทย์เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดครั้งนี้เป็นช่วงวันที่มืดมนที่สุดในการแพร่ระบาดรอบนี้ พร้อมขอให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19 เพราะเนื่องจากผู้ป่วยที่ล้นโรงพยาบาล และพยาบาลหลายรายได้ติดเชื้อโควิด จนทำให้รัฐลุยเซียนาขาดคนทำงานถึง 6,000 คน

.

ด้านรัฐแคลิฟอร์เนียได้กลับไปสั่งให้มีการสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะอีกครั้ง สำหรับรัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ได้เตรียมบังคับให้พนักงานบริการขนส่ง เรือนจำ โรงพยาบาล และสถานพยาบาล ฉีดวัคซีนหรือต้องหมั่นทำการตรวจหาเชื้อเป็นประจำ ซึ่งรัฐนิวยอร์กยังขอให้บาร์ ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆ ให้บริการเฉพาะลูกค้าที่ฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้น

.

ทั้งนี้สหรัฐพยายามสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้เรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นเสนอเงิน 100 ดอลลาร์เพื่อมอบให้กับชาวอเมริกันที่ตัดสินใจเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งเงินดังกล่าวจะได้รับการจัดสรรจากกองทุนบรรเทาโรคระบาดมูลค่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์สำหรับรัฐบาลระดับรัฐและระดับท้องถิ่น  ล่าสุดสหรัฐสามารถบรรลุฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสให้แก่ผู้ใหญ่จำนวน 70% ของประชากรทั้งประเทศแล้ว