สอบยิบ! ‘คมนาคม’ สั่ง รฟม. ตรวจสอบคำสั่งศาลละเอียดยิบ โครงการสายสีส้ม

252
0
Share:
สอบยิบ! คมนาคม สั่ง รฟม. ตรวจสอบคำสั่งศาลละเอียดยิบ โครงการสายสีส้ม

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกฟ้อง ในคดีที่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จํากัด มหาชน (บีทีเอส) ยื่นฟ้อง คณะกรรมการคัดเลือก ตามมาตรา 36 แห่ง พรบ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ว่า ขณะได้สั่งการให้ รฟม.ทำเรื่องไปขอคัดคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุดอย่างเป็นทางการและนำมาตรวจว่าคำพิพากษาสั่งการให้ดำเนินการอย่างไรบ้าง

จากนั้นให้ รฟม. ตรวจสอบดูว่าสิ่งที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ถูกต้องและปฏิบัติตามขั้นตอนของพ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯครบถ้วนแล้ว ไม่มีประเด็นอะไรเพิ่มก็ให้แนบคำพิพากษาประกอบเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคม และทีมกฎหมายของกระทรวงฯ ทีมกฎหมายที่เป็นคณะทำงานของรัฐมนตรีจะใช้อำนาจหน้าที่พิจารณาตรวจสอบ ว่าสิ่งที่ดำเนินการครบถ้วนสมบูรณ์เป็นไปตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ ถ้าครบถ้วนไม่มีปัญหาอะไรตนก็จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่าในเรื่องของคดีนั้นยังมีอีกหลายคดี รฟม.ต้องไปตรวจสอบว่ามีผลต่อการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ หรือมีคดีใดที่เป็นประเด็นที่มีส่วนทำให้ขั้นตอนการดำเนินการตามพ.ร.บ.รัฐร่วมลงทุนฯ พ.ศ.2562 ไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งคดีมีหลายประเภทหากเป็นคดีที่ไม่เกี่ยวข้องก็ต้องแยกออกไป เพื่อชี้ให้เห็นว่าไม่เกี่ยวข้อง เช่น การฟ้องตัวบุคคล เป็นต้น

ส่วนสิ่งที่เป็นประเด็นที่สังคมอาจไม่เข้าใจเรื่องพ.ร.บ.รัฐร่วมลงทุนฯว่าแตกต่างจากพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพัสดุของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งบางคนเข้าใจว่าตนมีอำนาจตามมาตรา 72 ของพ.รบ.รัฐวิสาหกิจ สามารถที่จะเข้าไปแทรกแซงได้ แต่เข้าไม่ได้เพราะเป็นกฎหมายคนละฉบับ และตนเคยอธิบายกับสภาผุ้แทนราษฎรแล้วว่ามี 5 ขั้นตอน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ที่รฟม. หากดูแล้วว่าคำพิพากษาแสดงให้เห็นว่าทำถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายหากไม่มีประเด็นใดแล้วก็ส่งมาที่กระทรวง

“ขณะนี้ขั้นตอนการพิจารณาเรื่องดังกล่าวยังไม่ส่งมาถึงกระทรวงคมนาคม ดังนั้นกระทรวงคมนาคมกับรมว.คมนาคมจึงยังไม่ได้มีอำนาจหน้าที่เข้าไปดำเนินการอะไรในเรื่องดังกล่าวเลย ยังไม่รู้อะไรเลย ฟังจากข่าวเท่านั้น แล้วจะมาบอกว่าผมละเว้น ผมไม่ได้ละเว้นแต่ไม่มีอำนาจจริงๆ “

ขณะที่ กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคดียกเลิกคดีการประมูลครั้งแรกค้างอยู่ถือเป็นสาระสำคัญหรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องรอดูคำพิพากษาสุดท้าย ซึ่งนายศักดิ์สยามระบุว่า ตนยังไม่เห็น

สำหรับ กรณีที่กระทรวงคมนาคมทำหนังสือด่วนที่สุดถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ขอให้ส่งหลักฐานเอกสารที่กล่าวหาว่ามีการทุจริตในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ในประเด็นเกี่ยวกับเงินทอนจากโครงการดังกล่าวจำนวน 30,000 ล้านบาท ที่มีจ่ายค่าคอมมิชชั่นที่ประเทศสิงคโปร์ เข้าบัญชีธนาคาร HSBC ว่า เป็นการปฏิบัติตามหลักกฎหมาย ส่วนนายชูวิทย์จะส่งเอกสารหลักฐานมาให้กระทรวงคมนาคมหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของนายชูวิทย์ แต่หากไม่ส่งมาให้และครบเวลา 15 วันทางกระทรวงคมนาคมก็จะสรุปเรื่องว่านายชูวิทย์ไม่ประสงค์จะใช้สิทธิ์ร้องตามกฎหมาย ส่วนกระทรวงจะดำเนินการอะไรต่อ หรือจะมีการฟ้องร้องหรือไม่นั้นให้รออีก12 วัน โดยหากนายชูวิทย์ส่งหลักฐานมาเกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องใหญ่ ก็จะให้ปลัดกระทรวงคมนาคมพิจารณา หากพบว่ามีมูลก็จะตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอน เพื่อจะได้จตรวจสอบให้ชัดเจน ดังนั้นขอเรียกร้องให้นายชูวิทย์นำหลักฐานมาแสดงอย่าเก็บไว้ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาเอง