สั่งปิดธนาคารทุกแห่ง-ทุกสาขาทั่วประเทศในเลบานอน เมื่อประชาชนปล้นแบงค์เอาเงินถูกอายัด

สมาคมธนาคารเลบานอน ประกาศแถลงการณ์เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมาว่า ธนาคารทุกแห่งจะยังปิดทำการต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากไม่ได้รับความมั่นใจจากทางการในการรักษาความปลอดภัย อีกทั้งยังคงมีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยสำหรับพนักงานและลูกค้า และบรรยากาศของการปลุกระดมก็ยังคงมีอยู่

ธนาคารหลายแห่งในประเทศเลบานอนปิดประตูทางเข้าออกของธนาคาร โดยไม่ต้อนรับลูกค้า หลังจากเกิดเหตุการณ์ประชาชนชาวเลบานอนโกรธแค้นอย่างรุนแรง ทำการบุกปล้นเงินในธนาคาร 7 แห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่วิกฤตการเงินที่ยืดเยื้อนาน 3 ปีของประเทศเลบานอน ก็เลวร้ายมากขึ้น ส่งผลกดดันทำให้ชีวิตชาวเลบานอนกินอยู่ยากลำบากยิ่งขึ้นไปอีก

ย้อนกลับไปวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์การปล้นธนาคารถึง 5 แห่งภายในวันเดียวกัน หลังจากนั้นธนาคารประกาศได้ปิด 3 วัน ระหว่าง 19-21 ก.ย. 2565 และยังเกิดเหตุหญิงคนหนึ่งใช้ปืนเด็กเล่นปล้นธนาคารเมื่อวันพุธที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อเอาเงินฝากไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลสมาชิกในครอบครัว ล่าสุด ธนาคารทุกแห่งจึงปิดทำการทั้งหมดอย่างไม่มีกำหนด

สำหรับสาเหตุการปล้นธนาคารของประชาชนในครั้งนี้ เกิดจากธนาคารของเลบานอนทำการอายัดเงินฝากมาเป็นเวลากว่า 2 ปี นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งจำกัดจำนวนเงินที่ประชาชนสามารถถอนเงินฝากได้แต่ละครั้ง ขณะที่ประชากรราว 3 ใน 4 อยู่ในภาวะยากจน ชาวเลบานอนส่วนใหญ่ตำหนิธนาคารและธนาคารกลางสำหรับวิกฤติที่เกิดขึ้นกับประชาชน

จากข้อมูลในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ชายชาวเลบานอนคนหนึ่งกลายเป็นที่สนใจขึ้นมาทันที หลังจากเขาปล้นธนาคารเฟเดอรัล แบงก์ และชิงเงินฝากของตัวเอง 35,000 ดอลลาร์ไปได้ โดยไม่ได้ถูกตั้งข้อหาทางอาญาใด ๆ หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ลอกเลียนแบบตามมา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีลูกค้าที่โกรธแค้นบุกธนาคารต่าง ๆ รวม 7 แห่ง โดยใช้ปืนพก ปืนปลอม หรือ ปืนลูกปราย ขู่บังคับให้พนักงานคืนเงินฝากให้พวกเขา บางคนก็ทำสำเร็จ เอาเงินฝากไปให้ครอบครัวได้แต่ถูกจับกุม หรือ ซ่อนตัวอยู่ ขณะที่บางคนปล้นไม่สำเร็จ นอกจากจะไม่ได้เงินแล้ว ยังถูกจับกุมเข้าคุกอีกด้วย