สาธารณรัฐเช็คประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งประเทศ ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 3 ของโลก

413
0
Share:
โควิด

นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐเช็ค แถลงว่า รัฐบาลมีมติและประกาศกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินครอบคลุมทั่วประเทศสาธารณรัฐเช็ค ก่อนหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่รัฐบาลจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น รัฐบาลประกาศใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ได้แก่ ธุรกิจบาร์และไนท์คลับให้ปิดบริการตั้งแต่ 22.00 น.เป็นต้นไป ประกาศยกเลิกการตัดงานเทศกาลตลาดคริสต์มาสประจำปี ประกาศจำกัดจำนวนผู้เข้าชมไม่เกิน 1,000 คนในงานอีเวนต์ต่างๆ เช่น งานแสดงวัฒนธรรม และการจัดการแข่งขันกีฬา

ด้านประธานาธิบดีไมลอส ซีแมน วัย 77 ปี ต้องถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลครั้งใหม่ หลังจากตรวจพบติดโรคระบาดโควิด-19 ในช่วงเย็นเมื่อวานนี้ โดยผู้นำสูงสุดประเทศสาธารณรัฐเช็ค ออกจากโรงพยาบาลเมื่อช่วงเช้าวานนี้หลังจากเข้ารับการรักษาเป็นเวลานานถึง 6 สัปดาห์จากสาเหตุการป่วยที่ไม่เกี่ยวกับโรคระบาดโควิด-19 สื่อท้องถิ่น เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีไมลอส ซีแมน วัย 77 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 รวมทั้งสิ้น 3 เข็มมาก่อนหน้านี้

กระทรวงสาธารณสุข สาธารณรัฐเช็ค เปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 มีผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 เพิ่มขึ้น 18,004 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันมากเป็นอันดับที่ 4 รองจากสถิติติดเชื้อรายวันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศเป็นต้นมา ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมเป็น 2,062,064 ราย อยู่อันดับที่ 25 ของโลก ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น อัตราการติดเชื้อเฉลี่ย 7 วันติดต่อกันขึ้นมาอยู่ที่ 1,516 รายต่อประชากร 1 ล้านคน ทำสถิติเป็นประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อเฉลี่ยราวันเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองจากสาธารณรัฐสโลวัก และออสเตรีย ตามลำดับ ในขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 33 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 32,523 ราย

ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐเช็ค เปิดเผยว่าได้ใช้มาตรการจำกัดและควบคุมการระบาดของโควิด-19 ด้วยการอนุญาตเฉพาะบุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 หรือผู้ที่หายป่วยจากโรคระบาดโควิด-19 มาเป็นเวลา 6 เดือน สามารถเข้าไปใช้บริการสถานที่สาธารณะได้ โดยมีผลในวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป

ด้านสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในสาธารณรัฐเช็ค พบว่ามีการฉีดครบโดสครอบคลุมถึง 6.2 ล้านคนจากประชาชนทั้งหมด 10.7 ล้านคนในประเทศ หรือคิดเป็น 58.5% ทำให้อัตราการฉีดวัคซีนในสาธารณรัฐเช็คยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มสหภาพยุโรปที่มีทั้งหมด 27 ประเทศสมาชิกซึ่งอยู่ที่ 65.8%

ทั้งนี้ สาธารณรัฐเช็คเป็น 1 ใน 63 ประเทศกลุ่มเสี่ยงที่ประเทศไทยประกาศอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีผลตรวจรับรอง สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป