สายทองคำอย่ากระพริบตา 9 โมงเช้านี้ลุ้นทองไทยสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่

142
0
Share:
สาย ทองคำ อย่ากระพริบตา 9 โมงเช้านี้ลุ้นทองไทยสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่

สมาคมค้าทองคำจะประกาศราคาทองคำในประเทศประจำวันเสาร์นี้ 2 ธันวาคม 2566 ในเวลาประมาณ 9.00 น. เป็นต้นไป ถ้าหากราคาทองคำประกาศเปิดราคาเพิ่มขึ้นเกินกว่า 300 บาทขึ้นไป จะส่งผลให้ราคาทองคำทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณในไทยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่

ราคาปิดเมื่อวานนี้ 1 ธันวาคม 2566 พบว่า ทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 33,850 บาท ขายออกบาทละ 33,950 บาท ราคาทองคำรูปพรรณรับซื้อบาทละ 33,245.88 บาท และขายออกบาทละ 34,450 บาท โดยปรับราคาทั้งหมด 6 รอบ รวมสุทธิขึ้น +150 บาท

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 ผ่านมา ราคาทองคำในประเทศไทยมีราคาปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ โดยทองคำแท่ง รับซื้อ 34,150 บาทและขายออก 34,250 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อ 33,533.92 บาท ขายออก 34,750 บาท ในวันดังกล่าวมีการประกาศปรับรารา 5 ครั้ง รวมขึ้นสุทธิ 5 ครั้ง ส่งผลราคาขึ้นสุทธิ +650 บาท ด้วยราคทเปิดตลาดพุ่งสูงถึง +450 บาท ท่ามกลางราคาทองคำส่งมอบทันที หรือราคา Gold Spot ตลาดสิงคโปร์อยู่ที่ ตลาดสปอตที่ 1,984 ดอลลาร์/ออนซ์ และเงินบาทในวันนั้นอยู่ที่ 36.51 บาท/ดอลลาร์

สถานการณ์ตลาดทองคำโลกในคืนผ่านมา วันที่ 1 ธันวาคม 2023 ตามเวลาในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เต็มไปด้วยความคึกคัก ด้วยแรงซื้อทองคำหนาแน่นตลอดทั้งคืนผ่านมา ทำให้ราคาปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ของโลก โดยราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,069.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +33.31 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.6% โดยในช่วงระหว่างวันซื้อขายมีราคาพึ่งขึ้นสูงสุดที่ 2,075.09 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

สอดคล้องกับ ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,089.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +52.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.6% ส่งผลทำสถิติราคาทองคำล่วงหน้าปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ เนื่องจากทำลายสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เดิมที่ระดับ 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปี 2022 ซึ่งเป็นผลจากรัสเซียเปิดฉากทำสงครามกับยูเครน

สาเหตุจาก นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา กล่าวปาฐกถาพิเศษในคืนผ่านมา โดยมีใจความสำคัญว่าความเสี่ยงของการใช้เครื่องมือดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐไม่ว่าจะปรับขึ้นสูงเกินไป และปรับลงต่ำเกินไป กำลังจะนำไปสู่ความสมดุลย์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เฟดไม่ได้พิจารณาเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวในขณะนี้ ทำให้นักลงทุนประเมินในทิศทางบวก และเกิดความมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะจบสิ้นรอบการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอาจเป็นไปได้สูงที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในเดือนมีนาคมปี 2024