นายคอนสแตนติน เอ็ม แกลล์ หัวหน้าสายงานวิจัยอากาศยาน การเคลื่อนที่ และกลาโหมทั่วโลก เอินส์ท แอนด์ ยัง (Ernst & Young) หรืออีวาย(EY) ซึ่งเป็น 1 ใน 4 บริษัทยักษ์ด้านการเงิน และการตรวจสอบบัญชีชื่อดังระดับโลก รวมถึงบริการที่ปรึกษาด้านการลงทุน เปิดเผยรายงานผลสำรวจพฤติกรรมของผู้ซื้อรถยนต์ทั่วโลกที่มีแผนจะซื้อรถยนต์คันใหม่ พบว่า ภายใน 24 เดือนข้างหน้า มีถึง 50% หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ซื้อรถยนต์ทั่วโลกมีแผนที่ซื้อรถยนต์คันใหม่ หรือรถยนต์มือสองเป็นเครื่องยนต์สันดาป หรือรถน้ำมัน สัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึง 13% จากผลสำรวจในปี 2024 ที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกันความชื่นชอบในการซื้อรถยนต์คันใหม่ที่เป็นเครื่องประเภทแบตเตอรี่ 100% หรือบีอีวี และเครื่องยนต์ไฮบริดกลับลดต่ำลง 10% มาเหลืออยู่เพียง 14% และ ลดลง 5% มันเหลืออยู่ที่ 16% ตามลำดับ
สำหรับในกลุ่มที่จะเป็นผู้ซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หรือรถอีวี พบว่ามีมากถึง 36% หรือมากกว่า 1 ใน 3 ที่ทบทวน หรือพิจารณาใหม่ หรือที่ตัดสินใจชะลอการซื้อ รถไฟฟ้า 100% หรือรถอีวีเนื่องจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนสูง
รายงานผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ซื้อรถยนต์ทั่วโลกกําลังกลับมาใช้เครื่องยนต์สันดาป สาเหตุมาจากนโยบายด้านสนับสนุน หรืออุดหนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเกิดการกลับลำ สงครามการค้า สงครามการค้า และความสงสัยที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน และต้นทุนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี รายงานโดยกลุ่มบริการระดับมืออาชีพ EY แสดงให้เห็นเมื่อวันอังคาร
ด้านปัจจัยการกลับลำของนโยบายสนับสนุน หรืออุดหนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้น เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอการปรับลดมาตรฐานความประหยัดน้ํามันเชื้อเพลิง ซึ่งในอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโจ ไบเดนได้เคยสรุปไว้เมื่อปีที่แล้ว การเสนอปรับเปลี่ยนนโยบายครั้งนี้ เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก สามารถขายรถยนต์ที่ใช้น้ํามันเบนซินได้ง่ายขึ้น
สอดรับกับสหภาพยุโรป คณะกรรมาธิการยุโรป หรืออีซี เปิดเผยว่า จะประกาศแพ็คเกจเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุโรป รวมถึงนโยบายสนับสนุนเครื่องยนต์สันดาปที่เป็นเครื่องยนต์ลดความเข้มข้นในการก่อมลพิษอากาศภายในปี 2035 ซึ่งกำหนดไว้ที่จะประกาศแพคเกจดังกล่าวในวันที่ 16 ธันวาคม
ทั้งนี้ รายงานผลสำรวจของอีวาย เปิดเผยต่อไปว่า ถึงแม้ผู้ซื้อรถยนต์ชาวจีนจะซื้อรถอีวีในประเทศมากขึ้น แต่กลับพบว่าไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับการขับเคลื่อนรถยนต์ที่ซื้อไปจะด้วยเครื่องยนต์อะไร และให้ความสนใจในไลฟ์สไตล์ดิจิทัลมากขึ้น