สิงคโปร์ปรับลดจีดีพีอีกระลอก หลังไตรมาส2 ทรุดหนัก

รัฐบาลสิงคโปร์ ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีปีนี้ลงอีกครั้ง จากเดิม -4% ถึง -7% เป็น -5% ถึง -7% หลังจากตัวเลขจีดีพีในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ดำดิ่งอย่างรุนแรงถึง -13.2% เทียบช่วงเดียวกันกับปี 2562 ทำสถิติทรุดหนักกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ -12.6% และเลวร้ายที่สุดตั้งแต่ได้รับเอกราชเป็นประเทศสิงคโปร์ หรือในรอบ 55 ปี
.
สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ยืดเยื้อขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจภายนอกประเทศซบเซาต่อเนื่อง มีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสิงคโปร์ เช่น อุตสาหกรรมการขนส่ง การค้าระหว่างประเทศ และคลังสินค้า ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจในประเทศโดยเฉพาะการว่างงานพุ่งขึ้นต่อเนื่อง อัตราว่างงานในมิถุนายนเพิ่มเป็น 2.9% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมที่ระดับ 2.4% ยอดขายปลีกเดือนมิถุนายนดิ่งเหวหนัก -27.8% ภาคการผลิตตกต่ำเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
.
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบรอบปีที่ 55 ของประเทศสิงคโปร์ หรือวันชาติสิงคโปร์ นายกรัฐมนตรีหลี่เซียนลุง กล่าวกับประชาชนสิงคโปร์ว่า วิกฤตยังคงห่างไกลจากจุดสิ้นสุดอีกมาก การปิดตัวลงของธุรกิจ ภาวะการว่างงาน อาจเพิ่มสูงมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศแพคเกจเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจไปทั้งสิ้น 90,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 20% ของจีดีพีประเทศสิงคโปร์
.
ทั้งนี้ ประเทศอื่นๆในกลุ่มอาเซียน ล้วนมีตัวเลขจีดีพีในไตรมาสที่ 2 ที่ย่ำแย่ครั้งประวัติศาสตร์ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ -16.5% อินโดนีเซีย -5.3% ซึ่งทำสถิติเศรษฐกิจชะลอตัวรายไตรมาสที่หนักสุดในรอบ 21 ปี ส่วนมาเลเซียเตรียมประกาศตัวเลขจีดีพีในวันศุกร์นี้ และไทยเตรียมประกาศในสัปดาห์หน้า