สิวารมณ์ ชี้บ้านราคา 1-7 ล้านบาท ยังเป็นที่ต้องการ ดันผลงานปี 65 โต 726.15 ล้านบาท

287
0
Share:
สิวารมณ์ ชี้บ้านราคา 1-7 ล้านบาท ยังเป็นที่ต้องการ ดันผลงานปี 65 โต 726.15 ล้านบาท

นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยแนวราบ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี2565 บริษัทฯประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยมีรายได้รวมที่ 726.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.65% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 564.46 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จาการขายอสังหาริมทรัพย์ 98.30 ล้านบาท และจากการขายที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์ 67.80 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 58.24 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 63.35 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรสุทธิลดลงเกิดจากบริษัทฯมีค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายการตลาดเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ถึง3โครงการซึ่ง2ใน3โครงการเปิดตัวในช่วงปลายปีขณะที่รับรู้รายได้ไม่ทัน แต่หากพิจารณากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 227.47 ล้านบาท ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นรวมและจากการพัฒนาโครงการเพื่อขายเพิ่มขึ้นเป็น31.37%และ33.96 % (จาก30.39%ในปี2564) เป็นผลจากการกำหนดราคาขายและการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี

โดยภาพรวมปี 2565 ต้องยอมรับว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต้องเผชิญกับความท้าทาย จากสถานการณ์ทั้งภายในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงมีการชะลอตัวอยู่บ้าง แต่ด้วยแผนการวางกลยุทธ์การตลาดผ่านการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการบ้านแนวราบ ในระดับราคา 1-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นกลุ่ม Real Demand สูง เพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยแบบ Premium Economy (ความคุ้มค่า) ส่งผลให้ทุกโครงการของ SVR ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัย ซึ่งสะท้อนออกมาให้เห็นถึงความสำเร็จของยอดขายที่เพิ่มขึ้น

ส่วนแนวโน้มภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการที่ประเทศจีนได้เปิดประเทศ ส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ซึ่งก็จะส่งผลเชิงบวกต่อตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยด้วยเช่นเดียวกัน ส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบ มีดีมานด์เพิ่มขึ้น สอดรับแผนธุรกิจปี 2566 ของบริษัทฯที่เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,600ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ SVR มีแผนขยายการพัฒนาโครงการเข้ามาในพื้นที่ใกล้โซน CBD ของกรุงเทพมากขึ้น จากเดิมที่พัฒนาโครงการในโซนพื้นที่ปริมณฑลเป็นหลัก เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินค้า อีกทั้งยังขยายฐานกลุ่มลูกค้าเซกเมนต์ผู้อยู่อาศัยระดับบน ภายใต้การพัฒนาโครงการระดับพรีเมี่ยมบนบ้านระดับราคาที่สูงขึ้นแตะระดับ 12 ล้านบาท จากเดิมที่เราพัฒนาโครงการระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อยูนิต เนื่องจากมองว่าลูกค้าระดับดังกล่าว เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ขอสินเชื่อผ่านง่าย มีความเสี่ยงต่ำ ดังนั้นบริษัทฯ จึงมองว่าฐานลูกค้ากลุ่มดังกล่าวยังมีดีมานด์สูง ที่สามารถเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ ในอนาคต ที่สำคัญยังสามารถสร้างการเติบโตรายได้ในปี 2567 ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดตามแผนที่วางไว้