สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์’ให้ธปท. – แบงก์พาณิชย์ แก้หนี้7 ล้านล้านบาท

848
0
Share:

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19 รัฐบาลได้ออกมาตรการพักชำระหนี้ เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ให้มีสภาพคล่องดีขึ้น โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับประโยชน์จากมาตรการพักชำระหนี้ 12.8 ล้านคน เป็นยอดหนี้ 7 ล้านล้านบาท
.
นอกจากนี้ รัฐบาลได้อัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 8 แสนล้านบาทในช่วงล็อกดาวน์ เพื่อเป็นเงินเยียวยาอาชีพอิสระและเกษตร 33 ล้านคน วงเงิน 4 แสนล้านบาท, ซอฟท์โลนจากธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินต่าง ๆ วงเงิน 2.5 แสนล้านบาท
.
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการลดค่าใช้จ่ายให้ภาคประชาชน อาทิ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ให้ช่วงล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำได้สำเร็จ เพื่อให้ประชาชนมีวันนี้ ให้มีความพร้อมฟื้นฟู และเริ่มต้นกันใหม่ได้
.
โดยสถานการณ์ปัจจุบัน เชื่อว่าประเทศไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 ปี โดยจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2564 และจะกลับสู่ภาวะปกติภายในปี 2565 บนสมมุติฐานของตัวเลขหนี้ตามมาตรการพักชำระหนี้ในปัจจุบัน
เดิมมองว่าหนี้ 7 ล้านล้านบาท ที่ถูกพักชำระหนี้ ในส่วนนี้จะไม่สามารถแก้ไขได้เลย แต่จนถึงปัจจุบันที่สถานการณ์เศรษฐกิจต่างๆ คลี่คลายลง รัฐบาลมีการคลายล็อกมาตรการถึง 6 ขั้น เศรษฐกิจมีการเคลื่อนไหว คนกลับมาใช้ชีวิตปกติ การบริโภคใช้จ่ายก็ดีขึ้นมาก ทำให้เชื่อว่าหนี้ที่จะเป็นปัญหาจะน้อยลง
.
ตนทำหน้าที่ทุกวัน ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเกิดวิกฤติ แม้ว่าอาจจะไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัสร้านค้าในรายละเอียด แต่ได้ทำงานร่วม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่าตัวเลขดัชนีชี้วัดดีขึ้นทุกเดือน การผลิต การบริโภคดีขึ้นตลอด 4 เดือนหลังผ่อนคลายมาตรการ ทำให้เชื่อว่าจำนวนหนี้ที่ห่วงกันในวันนี้ก็น่าจะน้อยลงไป แต่ก็เป็นเรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ธนาคารพาณิชย์ และธนาคารของรัฐ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวต้องติดตาม ซึ่งได้ให้อิสระกับ ธปท. ในการทำงาน แต่จะมีการติดตามดูตลอด โดยยืนยันว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ ไม่ใช่มหาวิกฤติเหมือนปี 2540
.
เชื่อว่าความกลัวเรื่องวิกฤติหนี้ในครั้งนี้จะแก้ไขได้ด้วยดี เพราะยอดหนี้ 7 ล้านล้านบาท เป็นเรื่องที่ยังบริหารจัดการได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ 6-7% ทำให้แรงโน้มถ่วงไม่เยอะ แต่มีปัจจัยกดดันเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยเท่านั้น ดังนั้นหากรัฐบาลมุ่งมั่น คนไทยมีความเชื่อมั่นร่วมกันว่าปัญหาโควิด-19 ต้องมีวันสิ้นสุด จะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายดีขึ้น