ส่อเค้ายุ่ง! กสทช. ให้ กกท. แจงเงิน 1.6 พันล้านซื้อลิขสิทธิ์บอลโลกให้คนไทยดูฟรี

345
0
Share:
ส่อเค้ายุ่ง! กสทช. ให้ กกท. แจงเงิน 1.6 พันล้านซื้อ ลิขสิทธิ์บอลโลก ให้คนไทยดูฟรี

ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ที่จะทำการเปิดฉากฟาดแข้งนัดแรก ในคืนวันที่ 20 พฤศจิกายน โดยคู่เปิดสนามเป็นการพบกันระหว่างเจ้าภาพ กาตาร์ กับ เอกวาดอร์ ที่อัล บายต์ สเตเดียม ในเวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เท่ากับว่าเหลือเวลาอีกเพียง ไม่ถึง 2 สัปดาห์เท่านั้นในการซื้อลิขสิทธิ์ของประเทศไทย ก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเริ่มแข่งขัน

ล่าสุดความคืบหน้าการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2022 ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นำงบประมาณของ กสทช. ไปใช้ในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเพียงหน่วยงานเดียวโดยระบุว่า เป็นงบที่ทำเพื่อประชาชนนั้น

รายงานข่าวจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แจ้งว่า ได้ส่งเอกสารขอรับการสนับสนุนและชี้แจงงบประมาณกรอบวงเงิน 1,600 ล้านบาทไปยัง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เรียบร้อยแล้ว โดย กสทช. จะเรียกประชุมคณะกรรมการบอร์ด กสทช. ในวันพุธที่ 9 พฤศจิกายน 2565 เพื่ออนุมัติงบประมาณส่วนดังกล่าวไปซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ให้คนไทยได้รับชมกันผ่านช่องสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี 64 แมตช์ สำหรับตัวเลขค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 นั้น เอเย่นต์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ประจำภูมิภาคอาเซียนได้เรียกค่าลิขสิทธิ์เข้ามาทั้งหมดเต็มแพ็คเกจเป็นเงิน 38 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,440,200,000 บาท (ตัวเลขอัตราค่าเงิน ณ วันที่ 7 พ.ย.)

โดยย้ำว่าตัวเลข 38 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นตัวเลขเฉพาะค่าลิขสิทธิ์อย่างเดียว ไม่มีค่าบริหารจัดการอื่นๆ แต่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประชุมซูมร่วมกับเอเย่นต์ของฟีฟ่าเพื่อเจรจาต่อรองค่าลิขสิทธิ์ลง ปรากฏว่า ฟีฟ่ายอมลดค่าลิขสิทธิ์ให้ประเทศไทย เป็นเงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐ สรุปว่า ประเทศไทยจะซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 จำนวน 64 แมตช์ เป็นเงิน 36 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,364,400,000 บาท (ตัวเลขอัตราค่าเงิน ณ วันที่ 7 พ.ย.) ยังไม่รวมค่าภาษี และค่าโอนเงินระหว่างประเทศอีกส่วนหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม กกท. ยังคงต้องหารือกับ กสทช. ในขั้นตอนต่อไปว่า หน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบในการประสานงานช่องสถานีฟรีทีวีช่องต่างๆ เพื่อเข้ามารับดำเนินการออกอากาศถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ทั้ง 64 แมตช์ แต่ยันยันว่า คนไทยจะได้ดูการถ่ายทอดสดฟรีเป็นไปตามกฏ “มัสต์แฮฟ” (Must Have) ที่ กสทช. เป็นหน่วยงานที่ออกกฎดังกล่าว โดยกฏ “มัสต์แฮฟ” (Must Have) ระบุว่า 7 มหกรรมกีฬาที่คนไทยต้องดูฟรี ประกอบด้วย ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, เอเชี่ยนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์ และฟุตบอลโลก

ด้านนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ทาง กสทช.ได้รับเอกสารจากทาง กกท. แล้ว แต่หนังสือดังกล่าวไม่ได้มีการชี้แจงอะไรเพิ่มเติมจากครั้งก่อน โดย กกท.ให้เหตุผลว่าเพราะทางฟีฟ่าไม่ได้ให้เอกสารรายละเอียดมาเปิดเผย เท่ากับว่าวงเงิน 1,600 ล้านบาทนั้น เป็นค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมด อย่างไรก็ตามในวันพุธที่ 9 พฤศจิกายนนี้จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมเพื่อนำมาคุยกันว่าจะทำอย่างไร หากคณะกรรมการ กสทช.จะไม่อนุมัติเงินให้ ก็จะได้แจ้งให้ไปหางบประมาณจากแหล่งอื่นแทน หรือว่าจะให้เท่าไหร่ ต้องพิจารณากันอีกครั้ง

“ เรื่องของตัวเลขที่เห็นคือ 36 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่มันจะมีค่าภาษี, ค่าแปลงเงินต่างประเทศ รวมแล้วก็ตกประมาณ 42 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,591,800,000 บาท (ตัวเลขอัตราค่าเงิน ณ วันที่ 7 พ.ย.) ด้วยกัน เพียงแต่ตรงนี้ทาง กกท.ไม่ยอมชี้แจงมาว่ามันมีอะไรบ้าง เงินที่จ่ายไปถ่ายทอดสดได้ทางช่องทางไหนบ้าง เป็นค่าลิขสิทธิ์เท่าไหร่ ค่าดำเนินการอีกเท่าไหร่ เป็นต้น ถ้าหากบอร์ด กสทช. ให้การอนุมัติเงิน เงินที่นำมาใช้จะเป็นเงินที่ผู้ประกอบการ ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งจะต้องแบ่งรายได้จากการประกอบการเข้ากองทุนทุกปีอยู่แล้ว เพื่อนำมาใช้ประโยชน์สาธารณะ ไม่ได้ใช้เงินภาษีจากประชาชนแต่อย่างใด”

“ในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ จะมีประชุมราว 30 เรื่อง หลังจากนั้นก็จะมาคุยเรื่องฟุตบอลโลกกัน ถ้าหากผู้ว่าการ กกท. ชี้แจงได้ครบตามที่คณะกรรมการสงสัย และให้ความเห็นชอบอนุมัติเงิน เรื่องก็จบ หรือถ้าให้ไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ก็คงต้องว่ากันไป” นายไตรรัตน์ กล่าว