ส.อ.ท. คงเป้าการผลิตรถยนต์ปี 68 นี้ที่ 1.45 ล้านคัน ขณะยอดผลิตรถยนต์ก.ย.68 พุ่งขึ้น 4.77% แตะ 1.28 แสนคัน 

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนกันยายน 2568 มีทั้งสิ้น 128,104 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2568 ร้อยละ 14.01 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 4.77 จากการผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าชดเชยการนำรถยนต์นั่งไฟฟ้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศปี พ.ศ. 2565 – 2566 และผลิตรถกระบะดัดแปลง PPV เพื่อส่งออกและจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นจากการออกรุ่นใหม่ของบางบริษัท ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์รุ่นนี้เติบโตร้อยละ 29.95

นายสุรพงษ์ ระบุว่า รถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 9 เดือนปีนี้ (มกราคม – กันยายน 2568 )มีจำนวนทั้งสิ้น 1,075,801 คัน ลดลงช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.63 แต่มั่นใจว่าการผลิตรถยนต์รวมในปี2568 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้1,450,000คันหากมีการเร่งจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออก

ส่วนรถยนต์นั่งเดือนกันยายน 2568 ผลิตได้ 49,473 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.39 ผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 26.49 จากการเลิกผลิตบางรุ่นเพื่อเปลี่ยนรุ่นใหม่ให้ตอบรับกฎข้อบังคับของประเทศคู่ค้า โดยแบ่งเป็นรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาป (ICE) มีจำนวน 21,761 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 36.38 , รถยนต์นั่ง BEV มีจำนวน 6,375 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 330.45 ,รถยนต์นั่ง PHEV มีจำนวน 3,474 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 527.08 ,รถยนต์นั่ง HEV มีจำนวน 17,863 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.66 ขณะที่ ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ อยู่ที่ 395,713 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 7.27 โดยเฉพาะรถยนต์นั่งICE มีจำนวน 184,320 คัน ลดลงร้อยละ 31.56 ขณะที่รถยนต์นั่งไฟฟ้ามียอดผลิตเพิ่มขึ้น

การผลิตเพื่อส่งออกเดือนกันยายน 2568 ผลิตได้ 85,625 คัน เท่ากับร้อยละ 66.84 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 2.33 ส่วนเดือนมกราคม – กันยายน 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 708,694 คัน เท่ากับร้อยละ 65.88 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 8.46

ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือนกันยายน 2568 ผลิตได้ 42,479 คัน เท่ากับร้อยละ 34.18 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 22.73 และเดือนมกราคม – กันยายน 2568 ผลิตได้ 367,107 คัน เท่ากับร้อยละ 34.12 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 3.75

รถยนต์นั่งเดือนกันยายน 2568 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 28,714 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 27.94 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2567 ผลิตได้ 240,726 คัน เท่ากับร้อยละ 60.83 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – กันยายน 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.14

สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกันยายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 48,350 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2568 ร้อยละ 1.53 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 23.82 จากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังเติบโตดีเพราะหลายรุ่นมีราคาที่ถูกลงจนสามารถซื้อได้มากขึ้นรวมทั้งเทคโนโลยีที่ติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้าน่าสนใจมากขึ้น แต่รถกระบะยังคงขายลดลงร้อยละ 4.00 จากการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงติดลบ แรงงานในภาคอุตสาหกรรมมีรายได้ลดลงจึงขาดกำลังซื้อ ผู้ขายสินค้าอื่น ๆ และอาหารรวมทั้งการท่องเที่ยวมีรายได้ลดลง

โดยยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์มีจำนวน 31,722 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 40.87 แบ่งเป็นรถยนต์นั่งสันดาปภายใน (ICE) 9,065 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 22.08 ,รถยนต์นั่งไฟฟ้า (BEV )9,107 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 99.10 ,รถยนต์นั่งไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 637 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 223.35

,รถยนต์นั่งไฟฟ้าผสม (HEV) 12,764 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 108.73

สำหรับยอดขายรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2568 มียอดขาย 477,969 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ร้อยละ 2.12 แบ่งเป็นรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ 288,391 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.87 ,รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 97,287 คัน ลดลงร้อยละ 17.47 ,รถยนต์นั่งไฟฟ้า (BEV) 81,351 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 55.79 ,รถยนต์นั่งไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 6,803 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 311.55 ,รถยนต์นั่งไฟฟ้าผสม (HEV) 102,370 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.82 ,รถกระบะมีจำนวน 106,603 คัน ลดลงร้อยละ 15.77 

เดือนกันยายน 2568 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 86,056 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 20.90 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 7.23 เพิ่มขึ้นจากการส่งออกรถกระบะเพิ่ม รวมทั้งรถกระบะดัดแปลง PPV ที่มีบางบริษัทออกรุ่นใหม่และส่งออกเป็นครั้งแรก รถยนต์นั่งไฟฟ้าและรถกระบะไฟฟ้าส่งออกเพิ่มขึ้น แต่รถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายในส่งออกลดลงร้อยละ 16.97 ส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้

การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนมกราคม – กันยายน 2568 จำนวน 689,031 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 10.39 มีมูลค่าการส่งออกรถยนต์ 462,553.36 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – กันยายน 2567 ร้อยละ 13.23 

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles