ส.เลี้ยงไก่ไข่ถามกลับ ทำไมรัฐไม่ช่วยตรึงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คุมแต่ราคาไข่ปลายทาง

นางพเยาว์ อริกุล นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง กล่าวว่า เกษตรกรคนเลี้ยงไก่ไข่ ไม่มีรัฐมาช่วยปกป้อง พอรัฐบาลขอให้ช่วยตรึงราคาขายไข่ เราก็ตรึงให้ แต่โปรดช่วยตรึงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เราด้วย ขอแค่ให้พออยู่ได้ ถ้ารัฐบาลทำไม่ได้ ก็ไม่ควรตรึงราคาขาย อย่าลืมว่า มันไม่มีคนทำมาหากินที่ไหน ที่จะอยู่ได้ ถ้าถูกควบคุมราคาขายปลายทาง แต่ต้นทุนผลิตพุ่งไม่หยุดแบบนี้

เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่กำลังมีปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และราคากากถั่วเหลืองที่มีราคาสูง กระทบต้นทุนการผลิตอย่างมาก ท่ามกลางราคาขายไข่ไก่หน้าฟาร์มถูกตรึงอยู่ที่ฟองละ 2.90 บาท แต่ต้นทุนทุกวันนี้พุ่งไปที่ฟองละ 2.92 บาทแล้ว หากยังปล่อยราคาข้าวโพดสูงไปกว่านี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่จะอยู่ไม่ได้

นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง กล่าวต่อไปว่า ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมรัฐบาลจัดการปัญหาราคาข้าวโพดไม่ได้ ทั้งๆ ตอนนี้เป็นช่วงปลายฤดูกาลเก็บเกี่ยว ข้าวโพดทั้งหมดขายออกจากไร่เกษตรกรไปอยู่ในสต๊อกของพ่อค้าพืชไร่หมดแล้ว ซึ่งเท่ากับมีผลผลิตที่พร้อมจำหน่ายเต็มที่ แต่กลับพบว่ามีของออกมาในตลาดน้อยและดันให้ราคาสูงขึ้นมาก

หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป คนเลี้ยงไก่ไข่ต้องขาดทุนมากขึ้น จากการถูกตรึงราคาไข่แต่ไม่มีใครช่วยตรึงราคาข้าวโพดซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญ

ทั้งนี้ วัตถุดิบทั้ง 2 ตัวนี้ถือเป็นส่วนผสมสำคัญของอาหารสัตว์ และเป็นสินค้าที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้มาตรการรัฐ ซึ่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีการประกันรายได้เกษตรกรพืชไร่ ขณะที่กากถั่วเหลืองก็มีภาษีนำเข้า 2% ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนให้เกษตรกรคนเลี้ยงสัตว์