หมอก็มา! ชมรมแพทย์ชนบทเรียกร้องส.ส.-ส.ว.ทุกคนเคารพมติมหาชน หนุนตั้งรัฐบาลใหม่เร็ว

180
0
Share:
หมอก็มา! ชมรมแพทย์ชนบท เรียกร้อง ส.ส. - ส.ว. ทุกคนเคารพมติมหาชน หนุนตั้ง รัฐบาล ใหม่เร็ว

วันนี้ 16 พฤษภาคม 2566 ชมรมแพทย์ชนบท ออกแถลงการณ์ว่า จากปรากฏการณ์การเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา สามารถสะท้อนเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนคนไทยได้ชัดเจน อันเป็นสัญญาณความก้าวหน้าทางประชาธิปไตยที่สำคัญยิ่ง ชมรมแพทย์ชนบทขอเรียกร้องต่อ ส.ส.จากทุกพรรคการเมือง และ ส.ว. ทั้ง 250 คน ให้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ประชาธิปไตย เคารพในเจตนารมณ์เสียงส่วนใหญ่ ของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ โหวตสนับสนุนให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งได้ฉันทามติ จำนวน ส.ส.มากที่สุด เป็นนายกรัฐมนตรี นี่จะเป็นการก้าวข้ามความขัดแย้งที่ยาวนานได้ดีที่สุด เป็นการแสดงออกซึ่งชุดความคิดที่เคารพหลักการประชาธิปไตยเสียงข้างมาก เป็นการเคารพต่อเจตนารมณ์และความหวังของผู้คนที่หวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำประเทศเดินไปข้างหน้า

ชมรมแพทย์ชนบทหวังจะเห็นสถาบันรัฐสภาไทย เป็นเสาหลักของสังคมไทย ขอให้ ส.ส.ทุกพรรค และ ส.ว.ทุกคน ร่วมเป็นส่วนสำคัญของการเดินหน้าประชาธิปไตยไทย ด้วยความหวังในสปิริตประชาธิปไตยของ ส.ส. และ ส.ว.ทุกคน

นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า เป็นไปตามที่แถลงการณ์ชมรมแพทย์ชนบท จุดประสงค์สำคัญคือ อยากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งฟอร์มทีมโดยเร็ว ให้การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น อยากให้ ส.ส. และ ส.ว. เคารพในเจตนารมณ์ของประชาชน ทั้งนี้ ยิ่งฟอร์มรัฐบาลใหม่ได้เร็ว การทำงานของรัฐบาลรักษาการณ์ก็จะน้อยลง

ส่วนตัวแล้วอยากเห็นกระบวนการทำงานในรัฐบาลชุดใหม่มีความหลากหมาย เปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นมากขึ้น โดยอยากให้ รมว.สธ.คนใหม่ เปิดรับฟังความคิดเห็นคนทำงานภาคปฏิบัติ และภาคการเมือง ข้าราชการ สัก 2-3 สัปดาห์ ก่อนการเดินหน้าทำงาน และอยากเห็นการปรับเปลี่ยนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่สมบูรณ์ และเข้าสู่เฟส 2 อย่างแท้จริง คือ การเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพแบบไร้รอยต่อ ไม่แออัด ระบบปฐมภูมิแข็งแรง เพราะในต่างประเทศ หากมีระบบหลักประกันคนส่วนใหญ่ จะเข้าไปใช้ทันที ผิดกับประเทศไทย ที่คนเลือกใช้บริการ รพ.เอกชน หรือคลินิก เพราะความแออัด และต้องการความสะดวก

ทั้งนี้ นพ.สุภัทร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เมื่อช่วงโควิดจะพบว่า ความแออัดของระบบบริการใน กทม. ประชากรจำนวนมาก ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกใช้บริการคลินิก ดังนั้นต้องมีการเพิ่มสถานพยาบาล ส่วนกรณีที่เปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ ระบบหลักประกันฯ มักมีการเปลี่ยนรูปแบบไป มองว่าขณะนี้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแค่วาทะกรรม แต่ครั้งนี้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงระบบ และการพัฒนาคุณภาพของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า