หมอธีระคาดยอดติดพันธุ์โอไมครอน จะพุ่งขึ้นช่วงกลางเดือน อย่าประมาทว่าอาการไม่รุนแรง

397
0
Share:
โควิด

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า โอไมครอนแพร่ระบาดไปแล้ว 140 ประเทศ โดยมี 17 ประเทศที่รายงานมากกว่า 1,000 ราย…สำหรับสถานการณ์ไทย

จำนวนเคสโอไมครอน สะสม 2,062 คน เป็นอันดับ 13 ของโลก…เปรียบเทียบความเสี่ยงในการติดเชื้อจนต้องนอน รพ.ของแต่ละสายพันธุ์ Ratcliff J จากมหาวิทยาลัย Oxford ได้ทบทวนข้อมูลวิชาการและชี้ให้เห็นว่า ความเสี่ยงในการป่วยจนต้องนอนรพ.ของโรคโควิด-19 นั้น ของแต่ละสายพันธุ์ จะพบว่า เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม Wuhan แล้ว สายพันธุ์ล่าสุดอย่างโอไมครอน มีความเสี่ยงที่ติดเชื้อแล้วป่วยจนต้องนอนรักษาในรพ. มากกว่าถึง 1.4 เท่า หรือ 40% ในขณะที่อัลฟ่านั้นมากกว่า Wuhan ราว 1.7 เท่า และเดลต้าราว 2.4 เท่า

..วัคซีนช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ดังที่เราทราบกันมาแล้วว่า การฉีดวัคซีนจะช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรงได้ เพราะจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งในน้ำเลือด ที่เรียกว่า แอนติบอดี้ และภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีงานวิจัยถึง 6 ชิ้น จากทั่วโลก ที่ศึกษาผลของวัคซีนต่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ได้ และอยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน ซึ่งเป็นเวลาที่ศึกษา และอาจนานกว่านั้น โดยภูมิคุ้มกันระดับเซลล์นี้สามารถต่อสู้กับเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ได้ด้วย (เครดิตตาราง: Topol E)

ภูมิคุ้มกันระดับเซลล์นี้เชื่อว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรง นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดี และเป็นข้อมูลที่สนับสนุนให้มีการฉีดแก่ประชาชน…สำหรับประชาชนไทย ขณะนี้เราเห็นชัดเจนว่าโอไมครอน ระบาดหนักขึ้นเรื่อยๆ ถัดจากกลางเดือน คาดว่าจะเป็นช่วงอัตราเร่งของการระบาด (acceleration phase) การป้องกันตัวเองและสมาชิกในครอบครัวนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง

อย่าหลงเชื่อกับการหวังจะได้ประโยชน์จากการติดเชื้อ ว่าไม่รุนแรง และหวังจะได้ภูมิคุ้มกันหมู่ เพราะการติดเชื้อไม่ใช่การฉีดวัคซีนธรรมชาติ มีโอกาสป่วยรุนแรง และเสียชีวิตได้

นอกจากนี้การติดเชื้อโรคโควิด-19 นั้นจะมีผลกระทบระยะยาว ที่เรารู้จักกันในชื่อ Long COVID ซึ่งส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกายทั้งสมอง หัวใจและหลอดเลือด ทางเดินอาหาร หรือภาวะทางจิตได้ในระยะยาว สายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้มีโอกาสเกิดได้ถึง 20-40% แต่สำหรับ Omicron เรายังไม่มีข้อมูล ดังนั้นจึงไม่ควรประมาท ได้ไม่คุ้มเสียครับ

ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า อยู่ห่างจากคนอื่นเกินหนึ่งเมตร เลี่ยงที่แออัด ถ่ายเทอากาศไม่ดี หมั่นสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ควรหยุดเรียนหยุดงานและรีบตรวจรักษา