หมอธีระเผยขณะนี้ไม่ใช่โควิด-19 ระบาดแค่เวฟเล็กๆ ในไทย ชี้ไทยมียอดตายสูงที่ 9 ของโลก

342
0
Share:
หมอธีระ เผยขณะนี้ไม่ใช่ โควิด-19 ระบาดแค่เวฟเล็กๆ ใน ไทย ชี้ไทยมียอดตายสูงที่ 9 ของโลก

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่ มีดังนี้

5 กรกฎาคม 2565… สถานการณ์ระบาดของไทย

จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย แม้ สธ. ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม

…ปัญหาหนักที่เผชิญ

1. ตัวเลขที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น

2. กลไกสนับสนุนทางสังคมลดลงไปมาก

3. สภาวะแวดล้อมทางสังคมที่เสี่ยงสูงมาก

4. ทัศนคติในการบริหารนโยบายสุขภาพที่เน้นเศรษฐกิจมากกว่าสุขภาพ และลดทอนการรับรู้ความเสี่ยงของประชาชน (Tone down risk perception)

5. ระบบการควบคุมป้องกันโรคไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะจัดการการระบาดในปัจจุบันได้ ทั้งในระดับประเทศ พื้นที่ และสถานที่จำเพาะ ทั้งที่ทำงาน และสถานศึกษา

6. การระบาดในครัวเรือนจากเด็กๆ ที่ติดเชื้อจากสถานศึกษา เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ป้องกันได้ยาก มีลักษณะแบบม้าไม้เมืองทรอย (Trojan horse)

7. การยึดตัวชี้วัดสุขภาพที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม เพราะกลไกนโยบายดูเฉพาะจำนวนคนป่วยในโรงพยาบาล และจำนวนเสียชีวิต โดยเป็นตัวชี้วัดที่มีเวลาเหลื่อมจากการติดเชื้อนาน (lag periods) ไม่ไวพอที่จะตรวจจับสถานการณ์ นอกจากนี้ปัญหาหนักระยะยาวคือ Long COVID ซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับจำนวนการติดเชื้อที่เกิดขึ้น และไม่ได้รายงาน

8. การมี Underestimation mindset โดยมีการประเมินสถานการณ์ที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เช่น กระจอก ธรรมดา เอาอยู่ เพียงพอ เวฟเล็กๆ ทั้งที่สถานการณ์จริงที่คนหน้างาน และประชาชนในสังคมเผชิญอยู่นั้นไม่เป็นเช่นนั้น

…หนทางแก้ไขระดับมหภาค

1. “บอกความจริง” แก่ประชาชนทุกคนในสังคม ไม่วิ่งหนีความจริง ไม่เปิดเฉพาะที่อยากเปิด ไม่เปิดแค่ยามที่อยากเปิด

2. วัฒนธรรม “ใส่หน้ากาก”

3. วิเคราะห์ช่องโหว่ของแผนการควบคุมป้องกันโรคในสถานที่จำเพาะ เช่น สถานศึกษา และที่ทำงาน และปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ ยืนบนพื้นฐานของความเป็นจริง และปรับระบบการดำเนินงานให้เหมาะสมกับทรัพยากรที่มีอยู่จริง ไม่ทำแบบเตี้ยอุ้มค่อม เพื่อให้การดำเนินชีวิตวิถีใหม่เป็นไปได้ ไม่ใช่วิถีชีวิตแบบเดิมแต่สังเวยด้วยความเจ็บป่วยและความเสี่ยงต่อชีวิต

4. ปรับเปลี่ยนกลไกบริหารจัดการนโยบายด้านสุขภาพ ตัวชี้วัด และสร้างระบบเฝ้าระวังที่เข้าถึงได้โดยสาธารณะอย่างละเอียด ทันเวลา

…สำหรับประชาชน การระบาดปัจจุบันหนัก

ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท เลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิด หรือกินดื่มร่วมกับผู้อื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว ในครอบครัว หมั่นสังเกตสังกาอาการผิดปกติของเด็กๆ หากไม่สบาย ควรรีบตรวจรักษา ตะลอนนอกบ้าน ทำงาน ศึกษาเล่าเรียน จำเป็นต้องใส่หน้ากากครับ จะช่วยลดความเสี่ยงไปได้มาก

ที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้… ไม่ใช่เวฟเล็กๆ