‘หมอธีระ’ ประเมินติดเชื้อโควิดรอบใหม่กำลังพุ่งขึ้น วันละกว่าหมื่นรายพันธุ์ XBB.1.16.x

211
0
Share:
หมอธีระ ประเมินติดเชื้อ โควิด-19 รอบใหม่กำลังพุ่งขึ้น วันละกว่าหมื่นรายพันธุ์ XBB.1.16.x

นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 29,147 คน ตายเพิ่ม 149 คน รวมแล้วติดไป 686,558,099 คน เสียชีวิตรวม 6,860,033 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ รัสเซีย โรมาเนีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และเวียดนาม เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 16 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 88.65 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 91.27

ข้อมูลจาก GISAID (Cr: Rajnarayanan R, US) ล่าสุดพบว่า Omicron สายพันธุ์ย่อย XBB.1.16.x นั้นมีรายงานการตรวจพบเพิ่มขึ้นเป็น 42 ประเทศทั่วโลก

ทาง Nextstrain ได้กำหนดรหัสสำหรับ XBB.1.16 ให้เป็น clade 23B (Omicron) เรียบร้อยแล้วต่อจาก XBB.1.5 ซึ่งเป็น 23A เพื่อทำการติดตามการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อย่างเป็นระบบ เนื่องจากข้อมูลจนถึงปัจจุบันบ่งชี้ให้เห็นว่า XBB.1.16.x นั้นมีสมรรถนะในการแพร่ที่เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม และมีรายงานจากหลายประเทศทั่วโลกมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ปัจจุบัน XBB.1.16 มีการแตกหน่อต่อยอดมีลูกหลานหลากหลายสายพันธุ์ย่อยแล้ว อาทิ XBB.1.16.1, XBB.1.16.2, XBB.1.16.3, FU.1, FU.2

สำหรับไทยเรา มีคนติดเชื้อและป่วยเพิ่มขึ้นมากอย่างชัดเจน สังเกตได้จากคนรอบตัวเรา และมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้เข้าระบบรายงานควรตระหนักถึงสถานการณ์ระบาดในปัจจุบัน และป้องกันตัวให้ดี

สำหรับตัวเลขรายสัปดาห์ 16-22 เมษายน 2566 จำนวนผู้ป่วยนอนรักษาตัวใน รพ. 1,088 ราย สูงกว่าสัปดาห์ก่อน 150% หรือมากขึ้นถึง 2.5 เท่า จำนวนเสียชีวิต 5 ราย สูงกว่าสัปดาห์ก่อน 2.5 เท่า

คาดประมาณจำนวนติดเชื้อใหม่รายวันอย่างน้อย 7,772-10,794 ราย โดยจะสังเกตได้ว่าจำนวนผู้ป่วยที่ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลในแต่ละสัปดาห์นั้นเพิ่มขึ้นถึง 2.59 เท่า และ 2.5 เท่า ตามลำดับ ในรอบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยสัปดาห์แรกนั้นขึ้นทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เข้าสู่ช่วงสงกรานต์ ดังนั้นจึงเป็นตัวสะท้อนว่าการระบาดที่ปะทุขึ้นมานั้นเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว สอดคล้องกับธรรมชาติของแต่ละระลอกที่ผ่านมา ที่มักมี grace period อยู่ราว 6-8 สัปดาห์ ไม่ได้เป็น seasonal pattern แต่เป็นไปในแบบ cyclical pattern ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ใหม่ รวมถึงการเปิดเสรีเดินทางท่องเที่ยว พฤติกรรมเสี่ยงในการใช้ชีวิตประจำวัน และการถดถอยของภูมิคุ้มกันและประสิทธิภาพของวัคซีนที่ลดลงได้ตามกาลเวลา

หากติดเชื้อแล้วยังควรแยกตัวจากผู้อื่น เพราะด้วยหลักฐานทางการแพทย์จากการวิจัยทั้งจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ หากติดเชื้อ และกักตัว 5 วัน มีโอกาสที่จะแพร่เชื้อได้อยู่ 50-75% 7 วัน 25-30% 10 วัน 10% 14 วัน ก็จะปลอดภัย แต่หาก”ไม่กักตัว” ไม่ว่าจะไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยก็แล้วแต่ ย่อมเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่นได้มาก แม้จะใส่หน้ากากก็ป้องกันได้เพียงบางส่วนเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานพยาบาล สถานศึกษา สถานที่ดูแลเด็ก/ผู้สูงอายุ รวมถึงสถานบริการที่มีการให้บริการดูแลผู้คนจำนวนมาก ความเสี่ยงจะสูงมาก และนำไปสู่ความสูญเสียได้มากเป็นเงาตามตัว

ซึ่งทางที่เป็นไปได้และเหมาะสมคือ “แยกตัว 7-10 วันจนกว่าจะไม่มีอาการและตรวจ ATK ซ้ำแล้วได้ผลลบ” จากนั้นจึงค่อยมาทำงานหรือใช้ชีวิต โดยป้องกันตัวเคร่งครัดจนครบ 14 วัน

“ที่ทำงานควรช่วยกันปรับสภาพแวดล้อมในการทำงานของตนเองให้มีการถ่ายเทอากาศ ระมัดระวังการรับประทานอาหารร่วมกัน ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอเป็นกิจวัตร ล้างมือหลังหยิบจับของสาธารณะ เว้นระยะห่างจากคนอื่น การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องเมื่อออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก”