หยุดกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนแล้ว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ หรือ ครม.เศรษฐกิจ ในวันที่ 31 ม.ค.นี้ จะยังไม่มีการเสนอยกเว้นการตรวจลงตรา หรือวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวจีน และจะยังไม่เสนอขยายมาตรการยกเว้นค่าวีซ่าหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ Visa on Arrival ที่จะหมดวันที่ 30 เม.ย.นี้ออกไป เนื่องจากในที่ประชุม ครม. วันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สั่งให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปศึกษาผลดี ผลเสียให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจอีกครั้ง
.
เพราะขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยน เช่น มาเลเซียประกาศไม่ออกวีซ่าให้กับชาวจีนที่มาจากเมืองอู่ฮั่น และมณฑลหูเป่ย ชั่วคราว มีผลทันทีและจะยกเลิกคำสั่งเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ปกติ ส่วนของไทยเมื่อถึงเวลาก็ต้องมาคุยกันว่าจะปกป้องคนไทยอย่างไรให้ปลอดภัยจริงๆ
.
ส่วนวันที่ 1-27 ม.ค. 2563 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาไทย 926,460 คน เพิ่มขึ้น 3.39% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่ภายหลังมีคำสั่งห้ามบริษัททัวร์จีนจัดนำเที่ยวต่างประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนระหว่างวันที่ 24-27 ม.ค. 2563 ลดลงทันที 36.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีจำนวน 107,654 คน
.
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ได้ประสานกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทำแผนที่จะเข้า ครม.เศรษฐกิจใหม่ทั้งหมด จากเดิมที่จะทำการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยว ให้เปลี่ยนเป็นการหามาตรการช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวแทน และจะรอให้เหตุการณ์นิ่ง ทราบความเสียหายที่ชัดเจน อาจจะอีก 2 เดือน หรือช่วงเดือนมี.ค. ค่อยนำแผนฟื้นฟูและมาตรการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวเข้าที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ อีกครั้งหนึ่ง
.
โดยผู้ประกอบการต้องการให้ธนาคารพิจารณาผ่อนผันการชำระหนี้สินให้ 6 เดือน ในฐานะที่ทำงานด้านธนาคารมาก่อน คิดว่าขอความร่วมมือได้แต่ละธนาคารยินดีช่วยอยู่แล้ว เพราะเหตุที่เขาทำธุรกิจไม่ได้ ไม่ใช่เกิดจากเขา ตอนนี้ต้องช่วยให้ทุกคนผ่านไปให้ได้และเรื่องที่ขอให้ตั้งกองทุนหรือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ในวงเงิน 10,000 ล้านบาทนั้น จะรับไว้พิจารณา ส่วนเรื่องขอเลื่อนการจ่ายภาษีนิติบุคคลออกไปก่อน ที่จริงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็เคยมอบให้กระทรวงคลังไปคิดเพื่อผ่อนผันให้ธุรกิจขนาดกลางและย่อม