หอการค้าร่วมต่างชาติในไทยยังไม่ถอนลงทุน ต้องการเห็นเร่งหาวัคซีนเร็วขึ้นให้คนไทย ชี้จีดีพีไทยปีนี้อาจเหลือ 0
นายสแตนลี่ย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย เปิดเผยว่า แม้นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยจะมองว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังพยายามทุกวิธีทางที่จะแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่ก็ตาม แต่ในสายตาของชาวต่างชาติอยากเห็นรัฐบาลไทยจะต้องเร่งจัดหาวัคซีนทุกทางให้มากขึ้น และมีเพียงพอต่อคนทั้งประเทศ เพื่อให้คนทั้งประเทศมีภูมิคุ้มป้องกันเชื้อโควิด เพราะเชื่อว่าคนติดเชื้อโควิดจะน้องลงได้ หากทุกคนได้รับการฉีดวัคซีน และเท่าที่หอการค้าต่างชาติได้คุยกันทุกฝ่ายมั่นใจและไม่ถอนการลงทุนจากประเทศไทย เพราะเห็นว่าไทยมีศัยพภาพที่ดี แต่หากจะให้เศรษฐกิจไทยกลับมาโดยเร็วแล้ว ภาครัฐจะต้องเร่งทุกด้านทั้งวัคซีน เร่งฉีดวัคซีน ให้ภาคธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุนและจัดทำแผนต่างๆให้มีความมั่นใจมากกว่านี้ก็เชื่อว่าโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นในเวลาไม่ช้าอย่างแน่นอน
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนไทยสามารถจัดหาพูดคุยกับภาคเอกชนทั้งไทยและต่างชาติที่จะร่วมกันจัดหาวัคซีนชนิดต่างๆนั้น โดยในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ภาคเอกชนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามพูดคุยกับเอกชนทั้งในและต่างประเทศ หากเอกชนรายใดต้องการจะขายวัคซีนหรือจะบริจาควัคซีนให้กับประเทศไทยแจ้งภาคเอกชนมาได้เลยเพื่อจะได้ให้รัฐบาลไปดำเนินการต่อ ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยกันตรงนี้แล้ว ซึ่งภาคเอกชนจะพยายามดำเนินการอย่างเต็มที
อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขจำนวนคนที่ติดเชื้อโควิด-19 รายวันเกิน 10,000-20,000 คนขณะนี้ถือว่าน่าจะเป็นห่วง ดังนั้น สิ่งที่จะลดปริมาณคนติดเชื้อได้จะอยู่ที่การฉีดวัคซีนและไทยจะต้องมีวัคซีนในปริมาณที่มาก โดยหากภายใน 1-2 เดือนนี้ ประเทศไทยมีวัคซีนเข้ามามากและฉีดให้คนไทยได้เร็วก็เชื่อว่าปริมาณคนติดเชื้อโควิดน่าจะน้อยลงไปบ้าง ด้านภาพรวมการส่งออกของไทยขณะนี้ฟื้นตัวขึ้นแม้ได้รับผลกระทบจากโควิดการส่งออกของไทยยังเติบโตได้ดีปีนี้มองว่าโอกาสขยายตัวร้อยละ 10 มีความเป็นไปได้สูง และหากมีการจัดการโควิดในช่วงที่เหลือของปีนี้ได้ดีโอกาสเติบโตร้อยละ 15 ก็เป็นไปได้และทำให้การท่องเที่ยวไทยกลับมาดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ด้วย
ด้านมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักธุรกิจต่างชาติในไทย ไตรมาสที่ 2/ 2564 จากหอการค้าต่างประเทศประจำประเทศไทยใน 40 ประเทศกว่า 70 รายต่อทัศนะเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 และในอีก 3 เดือนข้างหน้าของปี 64 มองว่าจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาถึงขณะนี้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยมีการแก้ไขปัญหาในด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นไปอย่างล่าช้า โดยเฉพาะไม่สามารถจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับคนในประเทศรวมถึงคนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนได้อย่างเพียงพอและเต็มที ทำให้การระบาดของโควิดระลอก 3 รุนแรง กระจายทั่วประเทศและยังควบคุมในวงจำกัดไม่ได้มากนัก
นอกจากนี้ ผลสำรวจดังกล่าวมองว่า ในปีนี้ 2564 โอกาสที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้น่าจะอยู่ที่ภาครัฐจะต้องเร่งจัดหาวัคซีนให้มากและเพียงพอหากในช่วงเวลาที่เหลือปีนี้ ประเทศไทยป้องกันโควิดได้โอกาสเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้นได้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปีหน้าหรือครึ่งปีหลังของปีหน้าได้ จึงคิดว่าจีดีพีของปี 64 น่าจะอยูที่ร้อยละ 0 ก็เป็นได้
