หุ้นดาวโจนส์ดิ่งแรงกว่า 300 จุด น้ำมันดิบปิดร่วงหลุด 75 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 35,650 จุด -320 จุด หรือ -0.89% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,668 จุด -43 จุด หรือ -0.91% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 15,413 จุด -217 จุด หรือ -1.39%

สาเหตุจากนักลงทุนมีความกังวลในเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน หลังนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรแถลงว่ามีอย่างน้อย 1 รายติดโรคระบาดโควิด-19 พันธ์ุโอไมครอนเสียชีวิตในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นกรณีการเสียชีวิตครั้งแรกของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน นอกจากนี้ นักลงทุนรอติดตามการประชุม 2 วันติดต่อกันของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดที่จะเริ่มต้นในวันอังคารและวันพุธนี้ โดยเฉพาะการแถลงความชัดเจนในการเร่งยุติมาตรการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในระบบการเงินเร็วขึ้นกว่ากำหนด

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.38 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.53% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 74.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.0%%

สาเหตุจากนักลงทุนนักลงทุนเริ่มกังวลกับการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ท่ามกลางรายงานการพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายจากสายพันธุ์โอไมครอนในสหราชอาณาจักร ผลการศึกษาจากสหราชอาณาจักร พบว่าวัคซีนครบ 2 โดสมีประสิทธิภาพลดต่ำลงมากเมื่อเผชิญกับสายพันธุ์โอไมครอน รวมถึงองค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่าการระบาดของสายพันธุ์ดังกล่าวกระจายไปกว่า 70 ประเทศ อย่างไรก็ตาม กลุ่มโอเปกพลัสประเมินว่าสายพันธุ์โอไมครอนมีผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบในระดับปานกลาง จึงปรับตัวเลขความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในไตรมาสที่ 1 ปี 65 เพิ่มขึ้น

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,788.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +9.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.2% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับอ่อนค่าลง นักลงทุนทองคำรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐนัดสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันอังคารและวันพุธนี้ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา