หุ้นทั่วโลกยังผันผวนต้องระวังการลงทุน

นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาวะตลาดหุ้นและทั่วโลกกำลังผันผวนอย่างหนัก โดยมีปัจจัยลบจากนอกประเทศทั้งสงครามการค้าโลก ตัวเลขเศรษฐกิจเยอรมนีไตรมาส 2 ติดลบ ที่สำคัญการเกิดภาวะผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นสูงกว่ายาว เป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังถดถอย และอาจเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกระลอกใหม่ขึ้นได้
.
โดยจากสถิติการเกิดภาวะ อินเวิร์ต ยีลด์ เคิร์ฟ ในสหรัฐ 5 ครั้งที่ผ่านมา หลังจากนั้น 12-22 เดือน เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญเข้าสู่ภาวะถดถอย และครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 2 ปี สูงกว่า 10 ปีอีกครั้ง ทำให้เกิดความกังวลต่อนักลงทุนมาก และทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตกลงอย่างรุนแรง ดังนั้นจะต้องมีการจับตาการเปลี่ยนแปลงเป็นรายวัน แต่เชื่อว่าหุ้นไทยน่าจะดีกว่า เพราะรัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมารองรับ
.
ด้านนางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง และในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการการลงทุนกล่าวว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่ใช่แค่หดตัวเท่านั้น แต่มีโอกาสติดลบและเศรษฐกิจจะไม่ดีขึ้นในอีก 10 เดือนข้างหน้า โดยนักลงทุนคาดว่า สหรัฐอาจใช้เครื่องมือที่มีอยู่ อย่างจำกัดเช่น QE ออกมาอีกรอบ แต่ก็จะไม่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นมาก เพราะเป็นสิ่งที่ทำมาหลายครั้งแล้ว
.
ส่วนหุ้นไทยมองว่ายังคงผันผวนต่อเนื่องตามตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากปัจจัยบวกในประเทศยังไม่มีความชัดเจนที่จะทำให้ตลาดปรับตัวดีขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะออกมานั้น จะเป็นมาตรการดูแลเศรษฐกิจในระยะชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ภาคธุรกิจลงทุนเพิ่ม ทำให้เศรษฐกิจในประเทศแข็งแกร่งเพียงพอ เพื่อรองรับกับปัจจัยภายนอกมากระทบ
.
ดังนั้นนักลงทุนควรระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น ซึ่งหากต้องการลงทุนระยะยาว 5 ปีขึ้นไป สามารถใช้จังหวะนี้เข้าไปลงทุนหุ้นที่มีพื้นฐานดี แต่หากต้องการลงทุนระยะสั้น เก็งกำไร นักลงทุนควรระมัดระวังในการลงทุนให้มากขึ้น