หุ้นไทยดิ่งแรง! ปิดตลาดหลุด 1,500 จุดร่วงลงกว่า 13.34 จุด ผันผวนรับแรงขายต่างชาติ

576
0
Share:
หุ้นไทย ดิ่งแรง! ปิดตลาดหลุด 1,500 จุดร่วงลงกว่า 13.34 จุด ผันผวนรับแรงขายต่างชาติ

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 1,494.02 จุด ปรับลง 13.34 จุด หรือ -0.88% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 55,609.45 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวกในช่วงภาคเช้า ก่อนปรับตัวลงเคลื่อนไหวแดนลบในภาคบ่าย โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,494.02 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,514.90 จุด

ซึ่งดัชนีฯ หลุดแนวรับที่ 1,500 จุดตามตลาดภูมิภาค รับแรงขายกลุ่มธนาคาร อาทิ KBANK, SCB ต่างชาติขายออกก่อนหลังนโยบายเงินดิจิทัลของรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างผันผวน หลังจากปรับตัวขึ้นในช่วงภาคเช้ารับปัจจัยหนุน คือ ตัวเลขส่งออกของไทยในเดือนส.ค.พลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 11 เดือน แต่เป็นปัจจัยบวกแค่ช่วงสั้นเท่านั้น เพราะเจอแรงขายออกมากดดัน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่องหลังจากค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า และยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่มาช่วยหนุน ทำให้ดัชนีปิดตลาดหลุดระดับ 1,500 จุด

ตลาดหุ้นไทยมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มแบงก์ สื่อสาร และโรงไฟฟ้า ที่เข้ามากดดันดัชนี ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็ปรับตัวลงตามกันจากความกังวลทิศทางดอกเบี้ยในหลายประเทศยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) ยังคงสูงกดดันตลาดหุ้น แนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกหรือไม่ จากปัจจุบันที่ 2.25% ให้แนวต้าน 1,500 จุด แนวรับ 1,490 จุด

ด้านนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายปรับตัวลงไปกว่า 10 จุด หลุดแนวรับที่ระดับ 1,500 จุดลงมา เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นยุโรปเปิดมาก็ปรับตัวลงจากความกังวลต่อดอกเบี้ยในหลายประเทศทรงตัวในระดับสูงยาวนานกว่าคาด และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) พุ่งขึ้นทั่วโลก กดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง

ขณะที่บ้านเรา คาดนักลงทุนยังรอดูความชัดเจนแหล่งที่มาของเงินดิจิทัลวอลเล็ต และยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนในช่วงนี้ด้วย รวมถึงดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ทำให้เงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ไหลออกต่อเนื่อง โดยมองนักลงทุนคงจะขายสุทธิหุ้นไทยออกไปก่อน จนกว่าจะมีปัจจัยที่หนุนต่อการกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง

สำหรับ 3 อันดับหุ้นไทยวันนี้ ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,023.46 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
2. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,676.04 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
3. SAV มูลค่าการซื้อขาย 2,261.59 ล้านบาท ปิดที่ 15.30 บาท ลดลง 3.70 บาท

ตลาด SET50 ปิดที่ 917.39 จุด ปรับ -6.11 จุด หรือ -0.66% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 36,683.01 ล้านบาท

ตลาด mai ปิดที่ 453.01 จุด ปรับ -10.93 จุด หรือ -2.36% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,190.89 ล้านบาท