หุ้นไทยปิดตลาดบวก 8.07 จุด ตอบรับเพื่อไทยขึ้นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จับตาโหวตนายกฯ

ดัชนี SET Index หุ้นไทยปิดตลาดอยู่ที่ 1,529.25 จุด บวก 8.07 จุด หรือ 0.53% มูลค่าซื้อขาย 51,702 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นไทยผันผวนในทิศทางปรับตัวสูงขึ้นเกือบทั้งวัน ซึ่งดัชนีฯ ทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,516.75 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,532.47 จุด

3 หุ้นไทยวันนี้ ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. KBANK มูลค่า 8,153.60 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 129.00 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 3.37%
2. BBL มูลค่า 2,873.87 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 164.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.30%
3. SCB มูลค่า 2,271.87 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 110.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.45%

ขณะที่ตลาด SET50 ปิดที่ 945.22 จุด ปรับ +6.50 จุด หรือ +0.69% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 36,930.15 ล้านบาท

ด้านตลาด mai เปิดที่ 462.89 จุด ปรับ +4.63 จุด หรือ +1.01% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,105.29 ล้านบาท

นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า วันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวเป็นผันผวนจากประเด็น สูตรจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่าจะยังจับมือกับพรรคร่วม 8 พรรค หรือย้ายไปหาพรรคกลุ่มอำนาจเก่า

โดยประเมินดัชนีฯ แกว่งตัวไซด์เวย์อัปช่วงต้นสัปดาห์หน้า ด้วยแนวรับ 1,525-1,555 จุด ให้จับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการที่แกนนำรัฐบาลเปลี่ยนมาเป็นพรรคเพื่อไทย หลังจากพรรคก้าวไกลส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทย ส่งผลต่อ sentiment บวกต่อตลาดหุ้นไทย ซึ่งถือว่าปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

ขณะเดียวกันยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์บางธนาคารที่รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ออกมาดี รวมถึงมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาหนุนจากราคาน้ำมันที่กลับมาปรับเพิ่มขึ้น ขณะแนวโน้มในสัปดาห์หน้าคาดว่ามีโอกาสแกว่งไซด์เวย์อัพต่อ แม้อัพไซด์จะค่อนข้างจำกัด โดยที่ยังคงต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศต่อ และรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวดับดอกเบี้ยอย่างไร โดยให้แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับ 1,520 จุด