หุ้นไทยร่วงอ่อน! ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดปรับลง 1.17 จุด ลบเล็กน้อย รับการเมืองคืบหน้า

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดอยู่ที่ 1,519.56 จุด ปรับลง 1.17 จุด หรือ –0.08% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 59,402 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน ซึ่งดัชนีฯ ทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,506.00 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,521.41 จุด

สำหรับ 3 หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. HANA มูลค่า 5,062.14 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 59.75 บาท เพิ่มขึ้น 7.50 บาท หรือ 14.35%
2. CPALL มูลค่า 2,081.49 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 62.50 บาท เพิ่มข้ึน 0.50 บาท หรือ 0.81%
3. KBANK มูลค่า 2,032.28 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 126.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.39%

ตลาด SET50 ปิดที่ 938.88 จุด ปรับ -0.90 จุด หรือ -0.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,166.23 ล้านบาท

ตลาด mai ปิดที่ 454.38 จุด ปรับ -4.15 จุด หรือ -0.91% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,199.52 ล้านบาท

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส กล่าวว่าในช่วงเช้าตลาดหุ้นปรับตัวลงไปอย่างร้อนแรง แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไม่รับคำร้องปมเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โหวตเลือกนายกฯ รอบ 2 จึงทำให้นักลงทุนเชื่อว่าอีกไม่นานก็จะได้หน้าตานายกรัฐมนตรี

โดยแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) ดัชนีฯคาดว่าจะปรับตัวเป็นบวกมากกว่าเป็นลบ โดยแกว่งตัวในกรอบ 1,510–1,535 จุด

ด้านนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ช่วงบ่ายฟื้นตัวกลับมาได้ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยปมเสนอชื่อโหวตนายกรัฐมนตรีซ้ำอีกในสมัยประชุมเดียวกัน ทำให้การโหวตนายกฯ สามารถดำเนินต่อไปได้ หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับว่าประธานรัฐสภาจะกำหนดวันในการประชุมสภาโหวตนายกฯ วันใด ทำให้ตลาดมีการฟื้นตัวกลับขึ้นมา

แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากการเมืองมีความคืบหน้ามากขึ้น น่าจะเห็นการฟื้นขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,525–1,530 จุดได้ รวมทั้งในคืนนี้ติดตามรายงานสรุปผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดว่าน่าจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์พักตัวลงมาได้ ซึ่งจะช่วยชะลอการไหลออกของกระแสเงินทุนต่างชาติที่ช่วงหลังกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทย โดยให้แนวต้าน 1,525–1,530 จุด แนวรับ 1,515 จุด