หุ้นไทยวันนี้ปิดร่วง 15.06 จุด รับแรงกดดันกังวลบอนด์ยีลด์ 10 ปี พุ่ง กระทบต้นทุนเอกชน

279
0
Share:
หุ้นไทย วันนี้ปิดร่วง 15.06 จุด รับแรงกดดันกังวลบอนด์ยีลด์ 10 ปี พุ่ง กระทบต้นทุนเอกชน

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 1,507.90 จุด ปรับลง 15.06 จุด หรือ 0.99% มูลค่าซื้อขาย 54,301.16 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงทั้งวัน ซึ่งดัชนีฯ ทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,503.33 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,521.66 จุด

สำหรับ 3 อันดับหุ้นไทยวันนี้ ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. BDMS มูลค่า 3,338.23 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.95%
2. PTT มูลค่า 2,817.75 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 33.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 2.21%
3. CPALL มูลค่า 2,424.31 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 60.75 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.41%

นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า วันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) ชนิด 10 ปี ปรับตัวขึ้นจากช่วงต้นปี 0.6% มาอยู่ประมาณ 3.17% ประกอบกับรัฐบาลประกาศแผนขาดดุลเพิ่มเติมแสนล้านบาท รวมทั้งปรับอุปทานขายพันธบัตรจากเดิม 1.1 ล้านล้านบาทไปเป็น 1.25 ล้านล้านยาท ซึ่งคิดเป็นพันธบัตรออกใหม่ 7-7.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการออกหุ้นกู้ของบรรดาบริษัทเอกชนเพิ่มมากขึ้น นักลงทุนจึงเทขายหุ้นที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) สูง

สำหรับแนวโน้มของวันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) มีโอกาสเป็นไปได้ 2 ทางคือหากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีท่าทีคงหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงก็จะทำให้ตลาดมีมุมมองในแง่ลบโดยอาจปรับตัวลงไปอีกครึ่งหนึ่งของที่ปรับตัวลงในวันนี้ แต่ถ้าคืนนี้เฟดมีท่าทีในเชิงผ่อนคลายมากขึ้นก็จะทำให้ตลาดมองในแง่บวก และส่วนที่ปรับตัวลงไปวันนี้ก็จะขึ้นมาอยู่จุดเดิม

ขณะที่ปัจจัยในประเทศไทยที่ต้องจับตาและอาจกระทบกับตลาดหุ้นไทยในอนาคตคือข่าวเรื่องความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน และเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะอาจกระทบกับความร่วมมือเรื่องการทำนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ทั้งนี้ ต้องติดตามการขาดดุลงบประมาณปีหน้าของรัฐบาล นายสุนทร กล่าวว่า ตลาดอาจมองในแง่ร้ายมากเกินไป เพราะหากรัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปด้วยดี อาจทำให้มีเม็ดเงินเข้ามามากขึ้น ประกอบกับอาจจะมีการเก็บภาษีทางอื่นเพิ่ม ทั้งหมดก็อาจจะทำให้การขาดดุลน้อยลง คาดว่าแนวโน้มดัชนีฯ วันพรุ่งนี้มองว่าอาจเเกว่งในแนวรับกรอบ 1,500-1,490 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,540 จุด