อดีต รมว.คลังเสนอปรับ VAT ขึ้นเป็น 9% – ลดเงินข้าราชการ แก้ไทยถังแตก

1035
0
Share:

นายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT จาก 7% เป็น 9% และจะทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น 1.2 แสนล้านบาท เพื่อนำไปแก้ปัญหาโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะจะหวังใช้เงินกู้อย่างเดียวจะมีปัญหาการเงินการคลังในไม่ช้า และคาดว่าในปี 2564 หนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะสูงเกิน 60% เกินกรอบความยั่งยืนการคลังที่กำหนดไว้
.
โดยมาตรการดังกล่าวจะต้องเริ่มในเดือน ม.ค. 2564 ไม่เช่นนั้นจะตายกันหมด คนเข้าใจผิดว่าเศรษฐกิจไม่ดีไม่ควรขึ้นภาษี แต่การเก็บภาษีดังกล่าวก็เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และรัฐบาลไม่ต้องกลัวว่าขึ้นภาษีจะเสียคะแนนนิยม เพราะตอนนี้ก็ไม่มีใครนิยมรัฐบาลอยู่แล้ว
.
นอกจากนี้ควรลดรายจ่ายประจำที่สำคัญ คือ การลดเงินเดือนข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ตอนนี้มีจำนวนคนมากกว่างาน ยิ่งมีโควิด-19 ทำงานน้อยลงแต่ได้เงินเดือนเท่าเดิม ดังนั้นควรลดเงินเดือนข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ แต่ยังไม่ต้องลดคน เหมือนกับบริษัทเอกชน ที่ตอนนี้มีการลดรายจ่ายส่วนใหญ่มีการลดเงินเดือนพนักงานไปแล้วไม่น้อยกว่า 25%
.
ที่สำคัญรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการเก็บภาษีจากทรัพย์สิน การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่ควรลดภาระจาก 100% เหลือ 10% ทำให้รายได้ของท้องถิ่นที่จะเก็บได้มากกว่า 1 แสนล้านบาท เหลือไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาทในปีนี้ และควรปรับปรุงการเก็บภาษีมรดกที่ปัจจุบันการเก็บภาษีได้ปีหนึ่งร้อยกว่าล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมาก เพราะมีการแก้ไขกฎหมายทำให้การเก็บภาษีไม่ได้
.
ส่วนการลาออกของนายปรีดี ดาวฉาย จากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลังจากทำงานไม่ถึงเดือน เป็นเพราะปัญหาสุขภาพและการเมืองผสมกัน นายปรีดี อาจไม่รู้ว่าปริมาณงานในตำแหน่ง รมว.คลัง มีมาก และต้องตัดสินใจตลอดเวลา ทำให้ไม่มีเวลาพักผ่อนจนทำให้มีปัญหาสุขภาพได้ และยังมีปัญหาการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งข้าราชการ และมีคนส่งหนังสือไปถึงกรรมการ ธ.ก.ส. ให้เซ็นลาออกจากตำแหน่ง ทั้งที่เป็นประธานกรรมการ ธ.ก.ส. ไม่รู้เรื่อง ทำให้นายปรีดี ลาออก